“ทวี สอดส่อง” แจงทางการอินโดนีเซียยืนยันดำเนินคดี “แป้ง นาโหนด” แค่ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการเพื่อลักลอบเข้าประเทศ ส่วนคดีทำร้ายร่างกายหญิงสาวชาวอินโดนีเซียไม่ได้แจ้งความ ให้ทางการไทยรับตัวกลับมาดำเนินคดีได้ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. เตรียมทีมใหญ่ ไปรับตัว หวั่นซ้ำรอยไม่นำตัวกลับไปควบคุมที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชแล้ว กำลังพิจารณาส่งไปคุมขัง ที่เรือนจำความมั่นคงสูง 1 ใน 5 แห่งแทน พร้อม สั่งการให้ดีเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษด้วย ด้าน “บิ๊กต่าย” สั่ง “พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข” รรท.รอง ผบ.ตร. เป็นตัวแทนประสานงานและเดินทางไปรับตัวนักโทษชายกลับมาสอบสวน แจ้งข้อหาเพิ่มเติมและดำเนินคดี
กรณีตำรวจเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย จับกุมตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาคดีสำคัญแหกการควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ระหว่างขอเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรี ธรรมราช ตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.2566 หลังหลบหนีสำเร็จยังปล่อยคลิปในโลกออนไลน์ชี้แจงเหมือนเย้ยกฎหมาย จึงเชื่อว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว หลังออกหมายจับข้อหาต่อสู้ขัดขวางและหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ประสานองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือตำรวจสากล ออกหมายแดงไปยังประเทศ สมาชิกทั่วโลก ล่าสุดชะล่าใจออกจากที่กบดานในเมืองเมดานไปเที่ยวเกาะบาหลี ก่อเหตุทำร้ายร่างกายหญิงสาวชาวอินโดนีเซีย 2 คนจนถูกตำรวจอินโดนีเซียควบคุมตัว พบพิรุธอ้างเป็นคนอาเจาะห์แต่เป็นใบ้ ตำรวจอินโดฯตรวจสอบกับทางการไทยยืนยันตัวคือ “แป้ง นาโหนด” ผู้ต้องหาเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลมีคดีติดตัวจำนวนมาก ทางการไทยพยายามเร่งขอตัวกลับมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุดตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
...
ความคืบหน้าจากกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 31 พ.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า กรณีดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานตำรวจสากลประเทศอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว รับแจ้งว่าสามารถรับตัวเสี่ยแป้งกลับมาดำเนินคดีในไทยได้ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. เนื่องจากทางอินโดนีเซียดำเนินคดีเพียงข้อกล่าวหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการเพื่อลักลอบเข้าประเทศ ส่วนคดีทำร้ายร่างกายผู้หญิงไม่พบว่ามีการแจ้งความ ร้องทุกข์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียอยู่ระหว่างดำเนินการขั้นตอนการรับส่งตัว วันที่ 1 มิ.ย.ตนจะเดินทางไปประสานรับมอบตัว คาดว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยพร้อมนายเชาวลิตได้ และต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด วันนี้ส่งตัวแทนของทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวน
คดีพิเศษ กรมราชทัณฑ์ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ไปประสานงานล่วงหน้าแล้ว
“นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รรท.รอง ผบ.ตร.เป็นผู้เดินทางไปรับตัวนายเชาวลิต ส่วนกระทรวงยุติธรรมจะมอบหมายให้นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางไปด้วย รวมถึง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึษานายกรัฐมนตรี และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อประสานงานและขยายผล เนื่องจากนายเชาวลิตเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญเครือข่ายค้ายาเสพติดระดับประเทศ ถือเป็นเรื่องสำคัญ และรัฐบาลอินโดนีเซียให้ความสำคัญ สำหรับขั้นตอนการนำตัวนายเชาวลิตกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้เครื่องบินพาณิชย์ไปรับหรือไม่ หลังนำตัวกลับมาจะเปลี่ยนสถานที่คุมขังเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง ปัจจุบันประเทศไทยมีอยู่ทั้งหมด 5 แห่ง แต่จะไม่ส่งตัวกลับไปที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชอีก” รมว.ยุติธรรมกล่าว
พ.ต.อ.ทวีกล่าวต่อว่า เมื่อนำตัวกลับมายังประเทศไทยแล้ว ตำรวจจะนำตัวไปสอบสวนและนำตัวไปฝากขัง อาจเป็นพนักงานสอบสวนในพื้นที่ จ.พัทลุงและนครศรีธรรมราช เนื่องจากในพื้นที่
พัทลุง นายเชาวลิตมีคดีพกพาอาวุธปืน พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตแล้ว ส่วนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช มีข้อหาหลบหนีจากที่คุมขังและพกพาอาวุธปืนเป็นคดีใหม่ แต่อาจพิจารณาโอนคดีมายังส่วนกลาง อาจให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษต่อไป
“ส่วนกรมราชทัณฑ์จะต้องพิจารณาว่า ใช้สถานที่ คุมขังใด เพื่อไม่ให้ผู้ถูกคุมขังหลบหนีและไปก่อเหตุร้าย ใช้อดีตเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำสองอีก ส่วนกรณีนายเชาวลิตร้องขอความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หลังจากนำตัวกลับมาจะสอบปากคำเพิ่มเติมในประเด็นอื่นๆ เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่า มีชาว อินโดนีเซียให้การช่วยเหลือหลบหนี แต่ต้องให้ทางการอินโดนีเซียเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง แต่เชื่อว่านายเชาวลิตไม่สามารถดำเนินการคนเดียวได้ ไม่ว่าจะเป็นการปลอมบัตรประชาชน การอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมหรู หรือการเดินทางไปยังเกาะบาหลี ยอมรับว่าการติดตามตัวนายเชาวลิตยากพอสมควร เนื่องจากใช้ชื่อบุคคลอื่นจองที่พักหลายห้อง เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ ส่วนกรณีตำรวจหญิงเปิดเผยข้อมูลที่อยู่นายเชาวลิตที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นเรื่องในสำนวนคดีอยู่ระหว่างขยายผล” พ.ต.อ.ทวีกล่าว
ด้านนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะไม่นำตัวนายเชาวลิต กลับไปคุมขังที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เพราะต้องคำนึงถึงความมั่นคงและปลอดภัย ส่วนจะเข้าไปขังเรือนจำใดต้องพิจารณาอีกครั้ง แต่ต้องเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง ปัจจุบันมี 5 แห่งในประเทศ ส่วนเรือนจำที่จังหวัดนครศรีธรรมราชขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย อยู่ระหว่างก่อสร้าง ปกติแล้วนักโทษที่หลบหนีนอกจากจะถูกดำเนินคดีอาญาแล้ว ยังต้องถูกดำเนินการตามระเบียบวินัยของเรือนจำคือ ลดประโยชน์หรือจำกัดอิสรภาพมากกว่านักโทษคนอื่น เช่น จำกัดการเยี่ยมญาติ แต่อย่างไรก็ตาม นายเชาวลิตต้องแยกคุมขังเดี่ยว เนื่องจากต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวนักโทษ
...
“ส่วนกรณีนายเชาวลิตจะซ้ำรอย พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ที่มีการช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกให้หลบหนีออกจากศาล หลังจากนี้จะนำตัวนายเชาวลิตไปอยู่ในเรือนจำที่มีระบบความปลอดภัยสูง ปกติแล้วนักโทษที่มีคดีอุกฉกรรจ์เราจะระมัดระวังเป็นอย่างมาก หากต้องนำตัวขึ้นศาลต้องมีมาตรการป้องกันแหกคุก อาจใช้ระบบวิดีโอทางไกล (Video Conference) หากจำเป็นต้องนำตัวไปศาลอาจเพิ่มมาตรการคุมเข้ม เข้มงวด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด หลังจากนี้หากนายเชาวลิตเจ็บป่วยไม่ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ ปกติเรือนจำมีสถานพยาบาลขั้นปฐมภูมิ มีแพทย์ตรวจรักษาภายในเรือนจำได้ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่านายเชาวลิตป่วย ยอมรับว่า เป็นจุดที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น หากไม่ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ ก็ไม่จำเป็นต้องไปรักษาโรงพยาบาลข้างนอก” นายสหการณ์กล่าว
ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้การประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยกับตำรวจประเทศอินโดนีเซีย ทั้งการรับและการส่งตัวทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมาย มีตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) หารือและพูดคุย เบื้องต้น สั่งการให้กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นกองอำนวยการศูนย์กลางประสานงานกับอินเตอร์โพล มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รรท.รอง ผบ.ตร. เป็นตัวแทนผู้ประสานงานและเดินทางไปรับตัวนักโทษชายกับคณะของกระทรวงยุติธรรม คาดว่ากระบวนการทั้งหมดใช้ระยะเวลาไม่เกิน 3 วันจะชัดเจน
“หลังรับตัวแล้วจะนำตัวนักโทษชายมาซักถามเบื้องต้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จากนั้นให้พนักงานสอบสวนจังหวัดนครศรีธรรมราชมาควบคุมตัวฐานหลบหนีการจับกุม และตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จะอายัดตัวอีกหลายข้อหา เช่น หลบหนีการจับกุม ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ และมีอาวุธปืนในครอบครอง ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้ความกรุณาประสานขั้นตอนต่างๆตั้งแต่การรับตัว จากนี้เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับช่วงต่อ ยืนยันว่ายังไม่มีข้อติดขัดทุกอย่างเป็นไปด้วยดี” รรท.ผบ.ตร.กล่าว
...
ผู้สื่อข่าวถามว่านักโทษชายจะถูกดำเนินคดีอะไรที่ประเทศอินโดนีเซียบ้าง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่ามีคดีที่จะต้องดำเนินการ ทางอินโดนีเซียพร้อมส่งตัวให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อ ส่วนกรณีดาบตำรวจหญิงที่มีส่วนเรื่องการจับตัวชาวอินโดนีเซียเรียกค่าไถ่ มีข้อมูลว่า เป็นผู้ให้ข้อมูลแหล่งกบดานของแป้ง นาโหนด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องขบวนการได้ทั้งหมดแล้ว
ต่อมาเวลา 19.50 น. พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาการ ผบ.ตร. ประสานขอเครื่องบินกองทัพอากาศ (ทอ.) ไปรับตัวนายชวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมของทางการไทยที่ประเทศอินโดนีเซีย ทางกองทัพอากาศเตรียมเครื่องแอร์บัส 320 (A320) ซึ่งมีความปลอดภัยสูงสุด ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง คาดว่าจะเดินทางได้ภายในสัปดาห์หน้า กระทรวงการต่างประเทศจะอำนวยความสะดวกประสานเรื่องขอผ่านน่านฟ้า และล่าสุด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม โทร.มาเน้นย้ำในเรื่องดังกล่าว ยินดีที่จะดำเนินการให้โดยเร็วที่สุด
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่