เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย จับไม้กระยาเลย จำนวน 12 ท่อน บนรถบรรทุก คนขับอ้างจะนำไปให้เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงปาย แต่ไม่มีเอกสารการเคลื่อนย้าย และที่มาของไม้ จึงจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ระหว่างทางบ้านสบแพม-บ้านเหมืองแร่ ต.ทุ่งยาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผอ.สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2567 ได้รับรายงานจาก นายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจติดตามงานอบรมไฟป่า บ้านผาสำราญ ต.เมืองแปง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ครั้นเวลาประมาณ 14.00 น. ระหว่างทางบ้านสบแพม-บ้านเหมืองแร่ ต.ทุ่งยาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน พบรถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกของมีผ้าคลุมของลักษณะเหมือนไม้ท่อน ขับออกมาจาก อ.ปาย จึงได้ขับติดตาม พร้อมเรียกกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเขตลุ่มน้ำปาย เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอปาย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.1 อำเภอปาย และเจ้าหน้าที่ทหาร ร.723 ค่ายเฉพาะกิจสิงหนาท เพื่อร่วมกันตรวจสอบ
...
ขณะที่มาถึงบ้านสบแพมจึงแสดงตัวขอตรวจสิ่งที่บรรทุกมากับรถบรรทุก 6 ล้อ พบชาย 2 คน (ขับรถ 1 คน, ท้ายรถ 1 คน) ในกระบะรถพบไม้กระยาเลย หรือไม้แดงท่อน ขนาดใหญ่ จำนวน 12 ท่อน ไม่มีรูปรอยดวงตราใดๆ คณะเจ้าหน้าที่จึงขอให้คนขับรถนำเอกสารเกี่ยวกับไม้มาแสดง และเชิญตัวมาให้ถ้อยคำที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 อ.ปาย
จากการให้ถ้อยคำของชายคนขับรถ ทราบชื่อภายหลังว่า นายธนรุจ เชียงสร้อย ให้ถ้อยคำว่า ตนเองและลูกน้องชื่อนายหลำ ไม่มีชื่อสกุล ได้มาขนย้ายไม้ที่น้ำพัดมาตามลำห้วยแม่ยะที่กีดขวางทางน้ำ ให้เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง เพื่อนำไปเก็บไว้ที่หมวดการทางปาย ซึ่งมีเอกสารรูปถ่าย ส่วนเอกสารอื่นเกี่ยวข้องกับไม้ไม่มี ซึ่งตนเองคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ประสานกันแล้ว
ทั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่ร่วมกันพิจารณาแล้ว การขนย้ายไม้โดยไม่มีรูปรอยดวงตราใดๆ ของรัฐ ไม่มีเอกสารการครอบครองไม้/ใบนำเคลื่อนที่ไม้ เป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11, 69 ฐาน “ร่วมกันทำไม้และมีไม้กระยาเลย(แดง)ท่อน ไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันควบคุมตัวชายทั้ง 2 คน พร้อมตรวจยึด รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 82-3212 เชียงใหม่ และไม้แดงท่อน จำนวน 12 ท่อน ปริมาตร 7.93 ลบ.ม.
และหน่วยฯ มส.1 อ.ปาย รับไปดำเนินคดี ส่ง พงส.สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อสืบสวนสอบสวนหาผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป.