"ดีเอสไอ" แจ้งข้อหา 8 ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ตั้งแต่ระดับ ผกก.ยัน ผบ.หมู่ คดีอุ้มหาย จับแพะ "ลุงเปี๊ยก" เบื้องต้นล้วนให้การปฏิเสธทุกข้อหา ขอยื่นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นวันที่ 27 พ.ค. 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุดและคณะพนักงานอัยการ ร่วมกันสอบปากคำและแจ้งข้อหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จำนวน 8 ราย 

ประกอบด้วย พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ

พ.ต.ท.พิชิต วัฒโน รอง ผกก.สส.สภ.อรัญประเทศ

พ.ต.ท.นิติธร พิมพ์คำ สว.สส.สภ.อรัญประเทศ

ร.ต.อ.พงศภัค พลแสน รอง สว.สส.สภ.อรัญประเทศ

ร.ต.อ.พชร บุญอินราทากูร รอง สว.สส.สภ.อรัญประเทศ

ด.ต.ภิเศก พวงมาลีประดับ หรือดาบเศก ผบ.หมู่ สส.สภ.อรัญประเทศ

จ.ส.ต.ทวีศักดิ์ พูนสะสมทรัพย์ ผบ.หมู่ สส.สภ.อรัญประเทศ

ส.ต.อ.ชัยศิริ สุรโฆษิต ผบ.หมู่ สส.สภ.อรัญประเทศ

กรณี นายปัญญา คงแสนคำ หรือลุงเปี๊ยก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

นายวัชรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนก่อนเวลานัดหมาย จากเดิมที่แบ่งการสอบปากคำออกเป็นสองรอบ คือ รอบเช้าและรอบบ่าย ขณะนี้จึงได้เริ่มการสอบปากคำทันที โดยจะใช้ห้องประชุมของดีเอสไอทั้ง 3 ห้องในการสอบปากคำและแจ้งข้อหา ส่วนการให้การเบื้องต้นนั้น ผู้ต้องหาล้วนให้การปฏิเสธทุกข้อหา และแจ้งขอยื่นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นวันที่ 27 พ.ค. ส่วนข้อหาที่คณะพนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งต่อผู้ต้องหา เป็นฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ซึ่งจะต้องมีการแจ้งให้พนักงานอัยการในพื้นที่ จ.สระแก้ว และนายอำเภออรัญประเทศ รับทราบด้วย แต่เมื่อไม่มีการแจ้งจึงผิดกฎหมาย ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ประกอบด้วย มาตรา 6 การกระทำย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมโหดร้าย และมาตรา 7 การอุ้มหาย หรือการกระทำที่มีการปกปิดชะตากรรม วันนี้จึงเป็นขั้นตอนที่ผู้ต้องหาขอเข้ารับทราบข้อเท็จจริงและข้อกล่าวหาในพฤติการณ์คดีตามที่พนักงานสอบสวนมีการแจ้ง 

...

ซึ่งผู้ต้องหาแต่ละรายจะมีพฤติการณ์ที่แตกต่างกัน บางรายอยู่ในสถานที่เดียวกันก็อาจจะมีพฤติการณ์เหมือนกันได้ จากนั้นจึงจะขอส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา อีกทั้งเราให้สิทธิกับผู้ต้องหาเต็มที่ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หรือหากผู้ต้องหามีพยานหลักฐานอื่นๆ พยานเอกสาร พยานวัตถุ พยานบุคคล พยานแวดล้อม ก็สามารถนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนได้ในวันที่ 27 พ.ค. 

ตนยืนยันว่าในการสอบสวน ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การอย่างไรก็ได้ เราไปบังคับไม่ได้ ทั้งนี้ การจะมายื่นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาจะต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง เพื่อให้เราบันทึกคำให้การของเขานำเข้าสำนวนการสอบสวน หากไม่มา คณะพนักงานสอบสวนจะปิดกล่องในการรับข้อมูล เพราะถ้าขยายเวลาไปเรื่อยๆ จะเหมือนเป็นการประวิงเวลา ส่วนสัญญาการประกันตัว เราไม่ได้ให้ผู้ต้องหาทำ เพราะทุกคนมีตำแหน่งหน้าที่การงานและไม่ได้หลบหนีไปไหน อีกทั้งการปล่อยตัวชั่วคราว เราก็พิจารณาจากตรงนี้ว่ามันไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องนำตัวไปฝากขัง หรือทำประกันอย่างไร สอบปากคำเสร็จสิ้นสามารถเดินทางกลับได้

นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องคำให้การเดิมของผู้ต้องหาทั้งหมดเคยให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้นั้น เขายังยืนยันในคำให้การเดิม แต่การที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษในครั้งนี้ ถือเป็นการให้คำปากคำครั้งแรกของผู้ต้องหาเรื่อง พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ส่วนถ้าผู้ต้องหาจะให้การเพิ่มเติมก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ส่วนภายหลังวันที่ 27 พ.ค. ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนที่คณะพนักงานสอบสวนพิจารณาว่าผู้ต้องหาแต่ละรายให้การชี้แจงมานั้น รับฟังได้มากน้อยเพียงใด ถ้ารับฟังไม่ได้ เหตุผลหักล้างหลักฐานไม่ได้ คณะพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณามีความเห็นทางคดีสั่งฟ้อง และจะส่งสำนวนการสอบสวนไปยังอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 เพราะเรื่องเกิดขึ้นในภาคตะวันออก และตนวางกรอบเวลาไว้ว่าหากผู้ต้องหาทยอยส่งเอกสารแก้ข้อกล่าวหาครบหมดแล้ว ก็จะเร่งสรุปสำนวนภายในเดือน มิ.ย.

เมื่อถามว่า ในวันเกิดเหตุ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง เช่น รับรู้หรือรับทราบการปฎิบัติหน้าที่ของชุดสืบสวนจับกุมลุงเปี๊ยกหรือไม่นั้น นายวัชรินทร์ กล่าวว่า มีภาพปรากฏชัดเจนว่าผู้กำกับการอยู่ในวันเกิดเหตุอยู่แล้ว มีภาพจากกล้องวงจรปิด ส่วนในรายละเอียดว่าเขามีบทบาทหรือมีการพูดคุยอย่างไร ตนต้องขอละเว้นการเปิดเผยไว้ก่อน แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีในวันนี้ ล้วนอยู่ในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ จึงทำให้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามพยานหลักฐาน ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าทำไมจึงไม่มีการแจ้งข้อหามาตรา 42 ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ต่อผู้บังคับบัญชาในระดับ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว หรือ ผบช.ภ.2 เนื่องมาจากหลักเกณฑ์ของมาตรา 42 ที่ผู้บังคับบัญชาจะถูกดำเนินคดีนั้น จะต้องเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาทราบอยู่แล้วว่ามีการกระทำทรมานเกิดขึ้น หรือมีการอุ้มหายเกิดขึ้นแล้วไม่ระงับเหตุ หรือผู้บังคับบัญชาไม่ดำเนินคดีเมื่อรู้ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่เราได้มีการพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมแล้ว พบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับระดับผู้บังคับบัญชา

...

เมื่อถามว่า ในกรณีของ ดาบตำรวจภิเศก หรือดาบเศก ที่เป็นผู้ใช้ถุงพลาสติกสีดำคลุมศีรษะลุงเปี๊ยกนั้น สรุปแล้วเป็นการหยอกล้อเล่นหรือเป็นการบังคับลุงเปี๊ยกในการสารภาพฆ่าป้าบัวผัน นายวัชรินทร์ กล่าวว่า เป็นรายละเอียดภายในสำนวน แต่ว่าทางผู้เสียหายอย่างลุงเปี๊ยกเองได้มีการให้ถ้อยคำไว้เรียบร้อยแล้วว่าบุคคลนั้นได้กระทำพฤติกรรมอย่างไรบ้าง

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในระหว่างที่คณะพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ 8 ผู้ต้องหาอยู่นั้น ด.ต.ภิเศก พวงมาลีประดับ หรือดาบเศก ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้เดินออกมาเข้าห้องน้ำ ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่า มีอะไรต้องการชี้แจงหรือไม่ อยากจะปฏิเสธข้อกล่าวหาใดหรือไม่ หรือยืนยันหรือไม่ว่าเราได้ทำตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว ปรากฏว่า ด.ต.ภิเศก ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด และพยายามเดินเกาะแขนทนายความเพื่อเข้าไปให้ปากคำต่อ 

ต่อมา พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ ได้เดินออกมาเข้าห้องน้ำ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามด้วยว่า จากข้อหาที่เกิดขึ้น ผกก.สภ.อรัญประเทศ มีอะไรอยากจะชี้แจงหรืออยากพูดหรือไม่ เพราะถูกแจ้งข้อหา ม.157 ปรากฏว่าเจ้าตัวได้ยิ้มรับและตอบกลับเบาๆ ว่า ไม่มีครับ และขออนุญาตครับ ก่อนขอตัวเดินเข้าไปห้องสอบปากคำพร้อมกับทนายความ.