ชุดสืบนครบาลจับอีก 1 แก๊งอุ้มรีดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวจีน 2.5 ล้านบาท ตามลากคอได้คาลานจอดรถร้านอาหารในซอยโชคชัย 4 สารภาพเป็นสมุน “จ่าแจ็ค” ตำรวจ สน.พญาไท ที่ยังหลบหนี มีหน้าที่ปลอมเป็นเหยื่ออีกกลุ่มสร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นคนเอาเครื่องรูดบัตรมารูดเปลี่ยนเป็นเงินสด ได้ค่าจ้างอู้ฟู่กว่า 3 แสนบาท ส่วนลูกพี่ “จ่าแจ็ค” ผู้ต้องหาคนสำคัญยังล่องหน พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง คุมตัวผู้ต้องหาที่จับกุมแล้วรวม 5 คนฝากขัง พร้อมค้านประกันเกรงจะหลบหนี ศาลส่งเข้าเรือนจำทันที

กรณีอดีตดาบตำรวจร่วมกับพวกทั้งตำรวจจริงตำรวจปลอมตั้งแก๊งอุ้มนักท่องเที่ยวชาวจีน 5 คน รีดเงิน 2.5 ล้านบาท ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง รวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหารวม 5 คน ตามจับกุมได้ 4 คน ประกอบด้วย ด.ต.อรรถวุฒิ หรือบอส สุมน รัตนกูล อายุ 52 ปี อดีต ผบ.หมู่ สส.สน.คันนายาว หัวหน้าแก๊ง นายธีรชัย เฉลิมวันเพ็ญ อายุ 36 ปี นายนภสินธุ์ นุ่มมาก อายุ 39 ปี และ ส.ต.อ.ภูวเดช เด็กหลี อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุผ่านฟ้า ส่วน จ.ส.ต.วีรยุทธ เพชรรัตน์ ผบ.หมู่ จร. สน.พญาไท ยังหลบหนี หลังจากนั้นขอหมายจับเพิ่มอีก 2 คนคือ น.ส.จารุเนตร ตั้งแซ่ อายุ 33 ปี และ นายหยาง ฉิวเจี๊ยน (Mr.YANG QIUJIAN) อายุ 45 ปี สัญชาติจีน คนรับแลกเงินดิจิทัลเป็นเงินสด รวมผู้ต้องหาที่ออกหมายจับแล้ว 7 คน จับกุมตัวได้ 4 คน เหลืออีก 3 คนอยู่ระหว่างติดตามตัว

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 5 พ.ค. ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ จงเจริญ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังจับกุม น.ส.จารุเนตร ตั้งแซ่ อายุ 33 ปี บริเวณลานจอดรถร้านเฉิน เลขที่ 4 ถนนโชคชัย 4 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2057/2567 ลงวันที่ 4 พ.ค.67 รวม 4 ข้อหา ประกอบด้วยข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ข้อหาร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน ข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินฯ

...

หลังจับกุมตัวผู้ต้องหาชุดสืบสวนคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.ดินแดงทันที เบื้องต้นทางการสืบสวนพบว่า น.ส.จารุเนตรเป็นหนึ่งในกลุ่มชาวลาวที่ได้รับการติดต่อให้มาพบกลุ่มชาวจีนผู้เสียหาย จากการสอบปากคำ น.ส.จารุเนตร ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า เป็นลูกน้อง จ.ส.ต.วีรยุทธ เพชรรัตน์ หรือจ่าแจ็ค อายุ 34 ปี ผบ.หมู่ จร. สน.พญาไท ที่ยังหลบหนี หลังได้รับการติดต่อจากกลุ่มผู้เสียหายชาวจีนจะเตรียมเครื่องรูดบัตรเพื่อเปลี่ยนเงินที่ข่มขู่มาเป็นเงินสด และยอมรับด้วยว่าที่ตัดสินใจร่วมขบวนการเนื่องจากได้รับค่าตอบแทนสูง

น.ส.จารุเนตรยังให้การอีกว่า ตามแผนจะทำทีเป็นเหยื่ออีกกลุ่มที่ถูกจับตัวมาเช่นเดียวกัน เพื่อหลอกให้กลุ่มผู้เสียหายเชื่อใจ น.ส.จารุเนตรขึ้นรถคันที่ ส.ต.อ.ภูวเดชเป็นผู้ขับ เมื่อได้เงินจากกลุ่มผู้เสียหายชาวจีนแล้ว “จ่าแจ็ค” สั่งให้แยกตัวออกมาแล้วไปรอที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยวิภาวดีรังสิต 60 พร้อมกับนายนภสินธุ์และ ส.ต.อ.ภูวเดช หลังร่วมกันก่อเหตุสำเร็จ น.ส.จารุเนตร รับโอนเงินค่าจ้างเข้าบัญชี 350,000 บาท แต่โอนต่อเป็นส่วนแบ่งของนายนภสินธุ์ไป 40,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตามหมายจับอีก 2 คนคือ จ.ส.ต.วีรยุทธ เพชรรัตน์ หรือจ่าแจ็ค อายุ 34 ปี ผบ.หมู่ จร.สน.พญาไท และนายหยาง ฉิวเจี๊ยน (Mr.YANG QIUJIAN) อายุ 45 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหารับของโจร เนื่องจากนายหยางมีหน้าที่รับแลกเงินคริปโตเคอร์เรนซี 65,000 USDT จากกลุ่มผู้ต้องหาเปลี่ยนเป็นเงินสดจำนวน 2.5 ล้านบาท

ที่ สน.ดินแดง เมื่อเวลา 09.30 น. พนักงานสอบสวน สน.ดินแดงคุมตัวผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย ด.ต.อรรถวุฒิ สุมนรัตนกูล อายุ 52 ปี อดีต ผบ.หมู่ สส.สน.คันนายาว หัวหน้าแก๊ง นายธีรชัย เฉลิมวันเพ็ญ อายุ 36 ปี นายนภสินธุ์ นุ่มมาก อายุ 39 ปี ส.ต.อ.ภูวเดช เด็กหลี อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุผ่านฟ้า และ น.ส.จารุเนตร ตั้งแซ่ อายุ 33 ปี คดีร่วมกันอุ้มนักท่องเที่ยวชาวจีน 5 คนรีดเงิน 2.5 ล้านบาท ไปฝากขังที่ศาลอาญาผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-16 พ.ค.67 พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ หากได้รับการปล่อยตัวเกรงว่าผู้ต้องหาหลบหนี

ที่ศาลอาญาเมื่อพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนเดินทางมาถึง ยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-16 พ.ค. เนื่องจากต้องรอผลตรวจสอบประวัติอาชญากรผู้ต้องหา รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางอื่นๆ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์อัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาผู้ต้องหาไม่ได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว และไม่มีญาติมายื่นประกันตัว ศาลออกหมายขังส่งตัวผู้ต้องหาชาย 4 คนไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่วนผู้ต้องหาหญิง 1 คนถูกพาไปควบคุมตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่