ชายวัย 45 ปี สุดเซ็ง โพสต์เล่าเรื่องราววันหยุดแรงงาน พาลูกน้องไปเที่ยวทะเล เจอชายแต่งกายคล้ายตำรวจทางหลวง ที่ป้อมวังจันทร์ ระยอง มาไถเงิน 5 พัน อ้างไม่พกพาสปอร์ต เรียกเข้าไปคุย ขู่หากไม่จ่ายจะดำเนินคดีเป็นแสน เพราะเป็นผู้นำพาคนต่างด้าว อ้างนายสั่งมา
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ รู้จักอ้อย น้อยป่ะล่ะ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “มาทะเล เจอดาวไถ 5,000 ขับมาดีๆ คนงานมีบัตร แต่ลืมเอาพาสปอร์ตติดตัวมา บอกคนละ 5,000 ขอต่อไม่ได้ ต้องเงินสด ไม่มีบัญชีโอน อย่างนี้ก็ได้หรา ไหนบอกไม่มีด่านแล้ว ทำไมไม่ใช่เทศกาลยังโดนไถอีก ขับมาปกติ แต่ไอ้คันแรกฝ่าไฟแดง คุณตำรวจติดไฟแดง ไม่ไล่ตามจับ คนจับผิดกฎจราจร แต่คนขับมาเที่ยวทะเล ถูกเรียกเงินเฉย 5,000 ช่วยแชร์ ด้วยนะคะ จะได้ถึงสำนักงานตำรวจให้รับรู้ว่าตำรวจมีเรียกเงินกิน ยังมีอีกมากนัก ตำรวจดีๆ น่านับถือ แต่ตำรวจทำผิดจะปล่อยให้ลอยนวลได้ไง ขอความเป็นธรรมด้วยค่ะ เงิน 5,000 ที่ต้องเสียไป ด้วยหยาดเหงื่อ แรงงานกว่าจะหามาได้แต่ละบาท คุณทำลงคอได้ยังไง ครอบครัวคุณโดนแบบนี้บ้างจะรู้สึกยังไง”
พร้อมกับคลิปวิดีโอที่มีชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กำลังยืนเจรจากับกลุ่มผู้เสียหาย โดยมีการเจรจาต่อรองเรียกรับเงินเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท อยู่ภายในป้อมตำรวจทางหลวงวังจันทร์ จังหวัดระยอง
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 22.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังห้องพักคนงานแห่งหนึ่ง พื้นที่ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้พบกับ นายณรงค์ศักดิ์ ขุนอาจ อายุ 45 ปี และนางสาวทองใบ สมบัติบูรณ์ อายุ 56 ปี สองสามีภรรยา ผู้โพสต์เรื่องราวได้นำหลักฐานให้ดู เป็นสลิปการกดเงินจำนวน 5,000 บาท เพื่อนำมาจ่ายให้กับชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และมีคลิปการเจรจาต่อรองราคาที่มีการเรียกรับเงินจำนวน 15,000 บาท จนไกล่เกลี่ยต่อรองกันเหลือ 5,000 บาท
...
โดย นายณรงค์ศักดิ์ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวฟังว่า วันนี้เป็นวันแรงงาน (1 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันหยุด ตนจึงจะได้พาลูกน้องและครอบครัวไปเที่ยวทะเลหาดแหลมแม่พิมพ์ รวมทั้งหมด 13 คน ซึ่งเป็นคนไทย 7 คน และคนชาวกัมพูชา 5 คน ซึ่ง 3 ใน 5 คนนี้ ไม่ได้พกใบพาสปอร์ตไปด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ตรวจบอกว่า ไม่มีใบพาสปอร์ต ตนก็ยืนยันว่ามีทุกคน และวันนี้ไม่ได้พกมาด้วย ซึ่งก็ยังมีรูปถ่ายของพาสปอร์ตติดมาในโทรศัพท์
โดยชายที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ก็บอกว่า มีความผิดปรับคนละ 5,000 บาท สามคนก็คือ 15,000 บาท และคนขับจะต้องโดนจับปรับเป็น 120,000 บาท เพราะนำพาบุคคลต่างด้าวไม่มีพาสปอร์ต หลังจากนั้นชายที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้เรียกทั้งหมดเข้าไปในห้อง เพื่อไปพูดเจรจาต่อรอง ขอเรียกคนละ 5,000 บาท 3 คน 15,000 บาท ตนจึงต่อรองเพราะไม่มีเงิน โดยได้รวบรวมเงินกันเติมน้ำมันมาเที่ยว เพราะเป็นวันหยุดและลูกน้องจะกลับภูมิลำเนา จึงอยากมาเที่ยวทะเลเป็นครั้งแรก
จากนั้นคนที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้อ้างว่า นายสั่งมาแล้วตกลงราคาที่คนละ 5,000 บาท ตนก็ยืนยันว่าไม่มี ขอต่อรองไปมาเหลือ 5,000 บาท ตนจะขอโอนให้ แต่ชายที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าไม่มีเลขที่บัญชี จึงขอเป็นเงินสดแทน ตนจึงได้ไปกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็ม จำนวน 5,000 บาท มาจ่ายให้กับชายที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงได้หลักฐานเป็นสลิปเงินสดที่กดจากตู้เอทีเอ็ม
“เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นวันหยุดแรงงานแท้ๆ ตั้งใจพาลูกน้องไปเที่ยวทะเลก่อนจะกลับภูมิลำเนา แต่กลับมาถูกรีดไถแบบนี้ งานก็ไม่ค่อยมี เงินก็ไม่ค่อยมี แถมต้องมาโดนรีดไถอีก”