ตำรวจสมุทรสาคร พร้อม จนท.การไฟฟ้า นำหมายค้นตรวจโรงงานน้ำแข็งร้าง พบมีการลักลอบใช้ไฟฟ้า โดยมีชุดขุดบิตคอยน์ 690 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์รวมมูลค่า 70 ล้านบาท จึงดำเนินการจับกุมแรงงานชาวพม่าเป็นผู้ดูแล พร้อมจ่อขยายผลหาเจ้าของตัวจริงมาดำเนินคดี เพราะสร้างความเสียหายให้การไฟฟ้าเดือนละ 10 ล้านบาท


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 พ.ค. 67 พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุขุม เพาะไธสง รองผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร, พ.ต.ท.ปริญ ศรีภัทรกุลชัย สว.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร, พ.ต.ท.สมภพ บัวเทศ สว.สส. สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร สืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร ร่วมกับ นายธนะ โชคพระสมบัติ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 ภาคกลาง, นายวรชัย แก้ววิจิตร ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร ไปทำการตรวจค้นโรงงานน้ำแข็งร้าง (เลิกกิจการไปแล้ว) ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

หลังจากสืบสวนทราบว่า สถานที่ดังกล่าวมีการลักลอบใช้ไฟฟ้า และเมื่อไปถึงพบแรงงานสัญชาติเมียนมา 1 คน ได้แสดงตนเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว จึงทำการตรวจค้น พบของกลางเครื่องขุดบิตคอยน์ จำนวน 690 เครื่อง มูลค่าประมาณ 69 ล้านบาท, HUB จำนวน 17 เครื่อง, หม้อแปลงไฟฟ้า ขนาด 2500 KVA จำนวน 1 เครื่อง มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 2 เครื่อง และสายไฟฟ้าอะลูมิเนียม จำนวน 24 เส้น ยาวเส้นละ 30 เมตร มูลค่าประมาณ 5 แสนบาท รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท 

...


โดย ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เผยว่า สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าได้แจ้งประเมินมูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนความเสียหายก่อนหน้านี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดพร้อมควบคุมตัวแรงงานสัญชาติเมียนมา นำส่งพนักงานสอบสวน และพร้อมจะเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลหาตัวเจ้าของที่แท้จริงมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป