สาวสระบุรี คู่กรณีที่ขับรถชน "ดาบต้าร์" ตำรวจทางหลวง เข้ากราบขอขมาภรรยาและครอบครัว บอกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มองไม่เห็น ขณะที่ครอบครัว ไม่ถือโทษโกรธเคือง เพราะอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องคดีปล่อยดำเนินการตามกฎหมาย

กรณี ดาบต้าร์ หรือ ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ อายุ 39 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.ตำรวจทางหลวงลพบุรี (ประจำจุดอยู่หมวดทางหลวงดีลัง) ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณทางแยกบ้านดีลังถนนสาย 21 ขาล่อง (สระบุรี-หล่มสัก) หมู่ 4 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ถูกรถยนต์เก๋งพุ่งชนจนร่างกระเด็น ศีรษะกระแทกพื้นจนเลือดไหลจำนวนมาก เบ้าตาขวาและใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส โดยเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ จาก รพ.พระนารายณ์มหาราช มาส่งโรงพยาบาลตำรวจวันนี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

มีรายงานว่า ก่อนที่จะนำตัวดาบต้าร์ส่งรักษาที่ รพ.ตำรวจ คณะแพทย์จาก รพ.พระนารายณ์มหาราช ผู้รักษา เปิดเผยว่า เมื่อคืนคนไข้มีอาการสมองบวมมาก ซึ่งในการเคลื่อนย้ายคนไข้อาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ หรือมีโอกาสแย่ลง ถึงแม้ว่าตำรวจจะเคลียร์ทางจนถึงได้อย่างรวดเร็วก็ตาม ซึ่งจากการตรวจผลเลือดมีความผิดปกติเล็กน้อย ซึ่งแพทย์ได้ทำการวินิจฉัยแล้วประคับประคองอาการ ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระยะที่ดี  

โดย พ.ต.ท.อิทธิชัย หังสพฤกษ์ นายแพทย์ (สบ3) กลุ่มงานศูนย์ส่งกลับและรถพยาบาล โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า คนไข้รายนี้ประสบอุบัติเหตุที่รุนแรงมาก บาดเจ็บสาหัส กระทบกระเทือนหลายอวัยวะ แต่ทางทีมแพทย์จะพยายามรักษาให้ดีที่สุดตามมาตรฐาน โดยมีครอบครัว ญาติ เพื่อนตำรวจ ประชาชน ฝากความหวัง ฝากดูแลรักษาชีวิตของดาบต้าร์ให้กลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัวดังเดิม โดยมีภรรยาและญาติของดาบต้าร์เดินทางไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย 

...

ส่วนทาง ด้านคดี น.ส.ระวีวรรณ ทรัพย์เกษตรกิจ อายุ 35 ปี ภรรยา ด.ต.ปิยนันท์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา น.ส.พรเพชร ปั้นสมใจ ได้เดินทางมากับญาติ ให้เหตุผลว่าช่วงชั่วโมงเร่งด่วนวันเวลาดังกล่าว ตำรวจทางหลวงได้เปิดทางพิเศษที่ 3 ให้กับประชาชนได้ใช้เส้นทางที่หนาแน่นในช่วงกลับจากภูมิลำเนาเทศกาลวันสงกรานต์ ตนเองมองไม่เห็น ด.ต.ปิยนันท์ ที่เดินข้ามถนนมา ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งยอมรับว่าตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่ น.ส.พรเพชร ปั้นสมใจ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดสระบุรี จะก้มกราบตนเองและครอบครัว ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคือง เพราะมันเป็นอุบัติเหตุที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับทุกคน และครอบครัวของใคร ในด้านคดีขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัฒนานิคม ลพบุรี ดำเนินการไปตามกฎหมาย.