"ทนายตั้ม" หอบหลักฐานพา พยานสำคัญ 2 ปาก ให้ปากคำตำรวจนานกว่า 2 ชม. ย้ำ "สายลับ" เป็นแม่บ้านทีมงานจ่ากอล์ฟ มือเก็บส่วย ส่วน "พิมพ์วิไล" เป็นตัวแทนเว็บพนันจ่ายให้ตำรวจ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 เม.ย. 67 ที่ สน.เตาปูน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดเผยหลังการเข้าให้ปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมงว่า พยานทั้ง 3 ปาก ถือเป็นพยานสำคัญ รวมถึงตนในฐานะผู้กล่าวหา สำหรับสายลับเป็นทีมแม่บ้านของตำรวจ ซึ่งเป็นทีมงานจ่ากอล์ฟ เป็นบุคคลที่รู้ว่าจ่ายส่วยให้กับบุคคลใดบ้าง ที่ห้องไหน ใครเป็นคนเก็บเงิน ถือเป็นทีมที่เก็บเงินส่วยได้มากที่สุดไม่ต่ำกว่า 8-9 ล้านต่อเดือน ส่วนปากที่ 2 น.ส.พิมพ์วิไล เป็นคนจ่ายส่วยหรือตัวแทนจ่ายส่วยของเว็บพนันว่า จ่ายไปถึงใคร กี่หน่วยงาน ซึ่งตนจะนำไปเปิดเผยให้กับพนักงานสอบสวนทั้งหมด หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องขอสเตตเมนต์ เพื่อมาตรวจสอบว่ามีการโอนเงินกันจริงหรือไม่ และดูว่า นายคชาชาญ และ นายณัฐพงศ์ บัญชีม้านั้นมีรายได้จากส่วนไหน ทำไมถึงมีคนโอนเงินมาทีละหลายล้านต่อเดือน คาดว่าหลักฐานที่ตนนำมาให้ในวันนี้ พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกกลุ่มผู้ต้องหาได้ โดยในส่วนของ สน.เตาปูน ที่ตนแจ้งความไว้มีทั้งหมด 4 ราย ส่วนคดีของ บก.ปปป. ซึ่งเป็นส่วยเกี่ยวกับการเก็บเงินส่วยทุกสาย ทั้งระบบเชื่อว่าจะพบเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดมากกว่านี้ โดยเฉพาะส่วนที่ตนเคยนำผังมาแถลงข่าวมีตำรวจชั้นประทวนและสัญญาบัตร กว่า 20 คนแล้ว
ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า สำหรับสายลับทีมแม่บ้าน จะให้มูลทั้งหมดเพราะรู้จักบัญชีม้าของทุกทีม บางครั้งทีมเก็บเงินก็พลาดที่โอนไปบัญชีญาติหรือคนใกล้ชิด ส่วนคนที่เก็บเงินทุกทีมของคอมมานโด และ บช.สอท. ต้องเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด ตัวสายลับเองค่อนข้างกลัวเนื่องจากเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ต้องเข้าไปให้ข้อมูลที่ บก.ปปป. กลัวว่าจะถูกอุ้มไปก่อนบ้างและมีความกังวล ตนจึงบอกว่าเมื่อเราเดินมาถึงขนาดนี้แล้ว ต้องนำความจริงเปิดเผยกับพนักงานสอบสวนไปให้หมด เพื่อให้คนผิดได้รับโทษทุกคน รวมถึงตัวสายลับต้องมีผลที่ตามมาเพราะเป็นหนึ่งในบัญชีที่ร่วมโอนเงิน และร่วมกระทำความผิดด้วยเช่นกัน โดยตัวสายลับก็พร้อมจะรับผลที่ตามมาและพร้อมให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่
...
"สำหรับ น.ส.พิมพ์วิไลนั้น เป็นผู้เกี่ยวข้องเฉพาะพนันออนไลน์ของเว็บพนันวีนัส และบีเอ็นเค มาสเตอร์ ส่วนลายลับเป็นคดีส่วยของ 18 ธุรกิจ ที่มีการเปิดเผยกับสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้ทั้งหมด โดยสายลับเป็นผู้เก็บเงินทีม บช.สอท.และคอมมานโด จะมีข้อมูลแชตและสลิปเงินต่างๆ ที่ส่งให้ดาบยาวและส่งต่อให้รองฟาง" ทนายตั้ม กล่าว
ทนายตั้มกล่าวอีกว่า ตัวสายลับรู้สึกสำนึกผิด เนื่องจากขณะไปเก็บเงินธุรกิจละ 500 บาท แต่ตัวสายลับเหลือเงินต่อเดือนเพียง 1-2 หมื่นบาท แต่ยอดที่เก็บมหาศาลจากหลายสาย เพื่อส่งให้คนอยู่บนสุดต่อเดือนหลักร้อยล้านบาท จนคิดว่าไม่ต้องการทำให้คนใดคนนึง และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ทำให้วันนี้จึงต้องนำมาเปิดเผย ยืนยันว่าไม่ได้มีการจ้างสายลับเพื่อมาให้ข้อมูลใดๆ เนื่องจากตัวสายลับประสานมาที่ตน ตนเพียงออกค่าที่พักให้ เพราะตัวสายลับเพิ่งเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ได้ 3-4 วัน และไม่มีการข่มขู่บังคับให้มาด้วย