ตำรวจภาค 4 รวบขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดเฮโรอีน 22 กิโลกรัม ซุกกล่องเครื่องสำอาง เตรียมส่งพัสดุเข้า กทม. ก่อนส่งต่อไปประเทศที่สาม จับเครือข่ายได้ 1 ราย สารภาพได้ค่าจ้าง 4 พันบาท

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 67 ที่ ภ.จว.หนองคาย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย, นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าฯ หนองคาย, นายคุ้มชน ธารีเกษ เจ้าหน้าที่ประสานงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด สาธารณรัฐเกาหลี, ผู้แทนจาก ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดเฮโรอีน 22 กิโลกรัม ขณะกำลังส่งพัสดุไปให้ผู้ร่วมขบวนการในกรุงเทพฯ ก่อนจะส่งไปประเทศที่สาม โดยซุกซ่อนในกล่องพัสดุเครื่องสำอาง

โดย พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจภาค 4 โดยชุดสืบสวนของ ภ.จว.หนองคาย ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ส่งยาเสพติดไปยังสาธารณรัฐเกาหลี มีต้นทางมาจาก จ.หนองคาย เกี่ยวเนื่องกับกรุงเทพฯ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนของ ภ.จว.หนองคาย และ สภ.ท่าบ่อ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ป.ป.ส.ภาค 4 ฝ่ายปกครอง และผู้จัดการร้านแฟลชโฮม สาขาท่าบ่อ เพื่อสืบสวนหาข่าวและวางแผนจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติดังกล่าว

...

พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนพบว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ได้เคลื่อนไหวอยู่ตามแนวชายแดน จะมีการส่งยาเสพติดทางพัสดุไปให้ผู้ร่วมขบวนการในกรุงเทพฯ เพื่อจะส่งต่อไปยังประเทศที่สาม จึงเฝ้าติดตามจับกุม นายสมพงษ์ อายุ 70 ปี กำลังติดต่อขอส่งพัสดุที่ร้านแฟลชโฮม อ.ท่าบ่อ โดยระบุปลายทางพัสดุที่กรุงเทพฯ ตรงตามข้อมูลที่ได้จากการสืบสวน จึงแสดงตัวและขอตรวจสอบพัสดุ พบว่าเป็นเฮโรอีนบรรจุในกล่องครีมกันแดดสีเหลือง จำนวน 111 กล่อง และเฮโรอีนบรรจุในกล่องครีมกันแดดกล่องสีเขียว 102 กล่อง น้ำหนักรวมทั้งสิ้นประมาณ 22 กิโลกรัม ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า "ยาเสพติดโทษประเภท 1 (เฮโรอีน) มีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า รับจ้างมาจากบุคคลที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ในราคา 4,000 บาท ให้ส่งพัสดุไปกรุงเทพฯ ตามที่อยู่ที่ผู้จ้างให้ไว้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผล ดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการต่อไป

พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวอีกว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ในการกวาดล้างจับกุมยาเสพติดตามแนวชายแดนและในพื้นที่ที่มีปัญหา ซึ่งตำรวจภาค 4 ได้กวาดล้างจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้สืบสวนขยายผลกวาดล้างจับกุมผู้ร่วมขบวนการทุกคน และนับจากนี้จะเพิ่มความเด็ดขาดในการกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในภาคอีสานเหนือ โดยผู้ค้ายาเสพติดจะต้องไม่มีที่ยืนอีกต่อไป