รวบ "ผู้หมวดไซเบอร์" ใช้บ้านพักเป็นแหล่งผลิต-ประกอบปืนยาวอัดลมแรงดันสูงขายผ่านออนไลน์ ด้าน "ผบช.สอท." ฮึ่มสั่งต้นสังกัดตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดวินัย-อาญา ประกาศกวาดบ้านหากมีตำรวจในสังกัดเอี่ยวทำผิด ก.ม. ฟันไม่เลี้ยง
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.นรวัฒน์ คำภิโล รอง ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 พ.ต.อ.สุบรรณ โชคพิมพา ผกก.1 บก.สอท.4 และ พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรีที่ ค.329/2567 ลงวันที่ 2 เม.ย. เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 123/365 หมู่บ้านนันทนา ต.บางรักน้อย อ.เมืองจ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่ในการจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางออนไลน์

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้น โดยขณะเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบ ร.ต.ท.ปัณณทัต (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ตำแหน่งรอง สว.ในสังกัด บก.อก.สอท. กำลังแพ็กอาวุธปืนเพื่อจัดส่งทางไปรษณีย์ให้กับลูกค้า ซึ่งทันทีที่ ร.ต.ท.ปัณณทัต เห็นเจ้าหน้าที่ก็มีสีหน้าตกใจ ก่อนรับเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว และยินยอมให้ตรวจสอบ
...
จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวอัดลม 3 กระบอก พานท้ายปืน 100 ชิ้น ลำกล้องปืนสไนเปอร์ 150 ชิ้น ที่สูบลมปืนแบบมือ 20 ตัว ที่สูบลมไฟฟ้า 2 ตัว กริปมือ 120 ชิ้น ชุดยิง 47 ตัว กระสุนหัวร่มกว่า 200 นัด และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวนมาก จึงได้ทำการตรวจยึดไว้

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้กำชับการปฏิบัติให้ บช.สอท. เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมภายใน 30 วัน ประกอบกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 1-10 เม.ย. กระทั่งพบว่ามีการนำเสนอขายอาวุธปืนยาวอัดลมแรงดันสูง ผ่านทางแอปพลิเคชันยูทูบ ช่อง AUNDERCOVER ก่อนที่จะให้ผู้ที่สนใจติดต่อผ่านไอดีไลน์ @tdz8888 เพื่อทำการติดต่อซื้อขาย ซึ่งไลน์ดังกล่าวมีสมาชิก 6,238 คน ผู้ติดตาม 2,552 คน จึงได้ทำการสั่งซื้อ จนพบข้อมูลว่ามีการส่งอาวุธปืนอัดลมผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน โดยใช้บ้านหลังดังกล่าวเป็นสถานที่ในการจัดส่ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการเข้าตรวจค้น
ผบช.สอท. กล่าวว่า สอบสวนให้การรับสารภาพว่า มีความชื่นชอบในเรื่องของอาวุธปืน จึงได้ทำการศึกษาและได้ทดลองสั่งอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ อุปกรณ์ส่วนควบ เกลียวลำกล้อง และชุดลั่นไก มาจากทางออนไลน์ ก่อนทำการขายให้กับกลุ่มลูกค้า ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบอาวุธปืน และกลุ่มชาวสวนที่จะนำปืนไปยิงสัตว์ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานเป็นหลัก ที่ผ่านมาทำมาแล้วกว่า 3 ปี มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อเฉลี่ยเดือนละ 20-30 กระบอก ขายกระบอกละ 15,000 บาท กำไรหลังจากหักต้นทุนแล้วตกเฉลี่ยกระบอกละ 3,000-4,000บาท ทำให้ต่อเดือนจะมีรายได้กว่า 3 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ต้นสังกัดของนายตำรวจนายนี้ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อดำเนินการในส่วนของวินัยและอาญาตามขั้นตอน นอกจากนี้ได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่าให้ดำเนินการตามกฎหมาย หากพบมีตำรวจในสังกัดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทำผิด

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า อาวุธปืนอัดลมที่ตรวจยึดนั้น แม้ไม่ใช่อาวุธปืนจริง แต่หากมีการนำมาใช้งานก็เป็นอันตรายแก่ชีวิต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่าในห้วงตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.-13 ก.พ. ที่ผ่านมา มีการส่งพัสดุทั้งหมด 104 ครั้ง
...
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวสอบสวนและขยายผล พร้อมแจ้งข้อหาข้อหาจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
