จับสึกแจ้งข้อหาพระฉาวเจ้าสำนักสงฆ์ดัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ถ่ายคลิปแบล็กเมล์สาวใหญ่ที่ลอบมีสัมพันธ์กันมานานกว่า 2 ปี ส่งคลิปไปให้ครอบครัวฝ่ายหญิงข่มขู่ให้เลิกกับผัว พฤติกรรมโฉ่สารพัดทั้งทำร้ายร่างกาย พกปืน แถมเสพยาบ้า คุมตัวค้นกุฏิพบปืนแบลงก์กัน 4 กระบอก ยาบ้า 14 เม็ด กระสุนปืนอีกเพียบ โดนแจ้งข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นไปก่อน ส่วนคดียาบ้ากับปืนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานก่อนแจ้งเพิ่ม เจ้าตัวให้การภาคเสธ อ้างมันเป็นกรรม ให้พี่ชายหาทนายสู้คดี

กรณีนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พานางเอ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี ไปที่ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมประสานงานกับ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ ที่มอบหมายให้ พ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ ร่วมกับนายประสงค์ จันทร์กระจ่าง ป้องกันจังหวัดกาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าติดตามความคืบหน้ากรณี นางเอ ถูกพระชัยชนะ ธนชัยภิวัฒนกุล อายุ 47 ปี เจ้าสำนักสงฆ์พระธาตุภูหินกอง ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันนานกว่า 2 ปีแล้วถ่ายคลิปวิดีโอแบล็กเมล์ พร้อมส่งภาพโป๊เปลือยขณะมีสัมพันธ์กันให้คนในครอบครัวและส่งให้สามีผู้เสียหาย นอกจากนี้พบว่า พระชัยชนะยังมีปืน 3-4 กระบอกใช้ประกอบพิธีลองของ เคยใช้ปืนตบหน้าหญิงผู้เสียหาย ยิงปืนถากแขน บังคับให้เลิกกับสามี และยังมีพฤติกรรมเสพยาบ้า ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 ติดตามจับกุมตัวพระชัยชนะได้ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี

ความคืบหน้าหลังจากตำรวจควบคุมตัวพระชัยชนะไปสึกพ้นผ้าเหลืองเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 31 มี.ค. แล้วนำตัวมาส่งดำเนินคดีที่ สภ.กุฉินารายณ์ ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 1 เม.ย. พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.กุฉินารายณ์ จากนั้นนำกำลังตำรวจควบคุมตัวอดีตพระชัยชนะ ไปค้นกุฏิที่พักภายในสำนักสงฆ์พระธาตุภูหินกอง เบื้องต้นพบปืนแบลงก์กัน 4 กระบอก กระสุนปืน ปลอกกระสุนปืน และยาบ้า 14 เม็ด นอกจากนี้ยังพบเป้าซ้อมยิงปืนด้วย ตำรวจเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวกลับไปสอบปากคำที่โรงพัก ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอดีตพระชัยชนะถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าตัวพูดเพียงสั้นๆว่า “มันเป็นกรรม” ในชั้นสอบสวนให้การภาคเสธ จะให้การในชั้นศาล และรอให้ทนายเป็นคนให้ข้อมูล กำลังให้พี่ชายหาทนายมาต่อสู้คดีอยู่

...

พ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ เผยว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ จะขอให้การในชั้นศาล อยู่ระหว่างให้พี่ชายแต่งตั้งทนายมาสู้คดี พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงของคู่ถูกข่มขืนใจหรือของผู้อื่นจนผู้ถูกข่มขืนใจยินยอมโดยมีอาวุธ เป็นข้อหาตามหมายจับไปก่อน ส่วนข้อหาอื่นๆทั้งยาเสพติด และอาวุธปืนจะรวบรวมพยานหลักฐานและข้อหาเพิ่มต่อไป หลังสอบปากคำจะส่งไปฝากขังและคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้เสียหายและหลบหนี

ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ เผยด้วยว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อ 18 มี.ค. หญิงสาวผู้เสียหายพร้อมลูกสาวเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ขณะนั้น ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ มาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่โรงพักพอดีจึงได้พบกับทั้งสองคน และได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้เสียหายแล้วพนักงานสอบสวนไปขออนุมัติศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 19 มี.ค. และเข้าตรวจค้นกุฏิในสำนักสงฆ์เมื่อวันที่ 20 มี.ค. แต่ปรากฏว่าพระชัยชนะไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนแล้ว ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตามล่าตัวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งลูกสาวของผู้เสียหายส่งเรื่องไปร้องเรียนกัน จอมพลัง

ด้านกัน จอมพลัง กล่าวว่า ลูกสาวผู้เสียหายขอความช่วยเหลือมา บอกว่าแม่ถูกพระแบล็กเมล์ เป็นพระที่มีชื่อเสียงใน อ.กุฉินารายณ์ มีลูกศิษย์เป็นถึงระดับผู้ใหญ่ มีพฤติกรรมแอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแม่ของน้องมานานกว่า 2 ปี พ่อก็ไม่รู้ ระหว่างมีสัมพันธ์กันก็ถูกพระแอบถ่ายคลิปไว้จำนวนมากเพื่อแบล็กเมล์ และบอกให้แม่เลิกกับพ่อ ซ้ำยังส่งคลิปไปให้พ่อและคนในครอบครัวดู น้องรู้สึกว่ามันหยามใจเกินไปและรู้สึกสงสารพ่อที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่พระยังลอยหน้าลอยตาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่อยากให้ทำแบบนี้กับใครอีก จึงมาขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้พระก็ทำผิดกฎหมายหลายอย่าง ส่วนแม่ก็ทำผิดศีลธรรม แต่น่าเห็นใจลูกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่ต้องมารับกรรมที่ไม่ใช่คนก่อตนจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนคดีให้เป็นไปตามหน้าที่ของตำรวจ

นางเอ ผู้เสียหาย เผยว่า เวลาพระบอกให้ไปหาก็ต้องไป ถ้าไม่ไปจะตามมาที่บ้าน ขู่จะมายิงสามีและทำร้ายสามีด้วย บางครั้งก็มาโวยวายที่บ้านแบบไม่รู้เรื่อง มีชี้หน้าด่าสารพัด กลัวจะทำร้ายสามีเลยตัดสินใจออกมาบอกความจริงเพราะทนไม่ไหวแล้ว

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่