แม่หนุ่มโหดฆ่าเมียฝังไว้ข้างบ้านนาน 8 เดือน รับลูกชายเจ้าชู้ แต่นิสัยไม่ดุร้าย ที่ก่อเหตุคงเหลืออด ขณะที่แม่ฝ่ายหญิงเผยผู้ก่อเหตุตีหน้าเศร้า ร้องไห้ สร้างสถานการณ์ยังรักและคิดถึงลูกสาว ด้านน้องชายผู้ตายยัน ผู้ลงมือเล่าความเท็จมาตลอดจนทุกคนตายใจ รู้สึกสงสาร สุดท้ายเวรกรรมมีจริงวิญญาณคนตายมาเข้าฝัน ขอให้ช่วยหลุดพ้นอยากไปผุดไปเกิดถูกฝังข้างบ้าน ซึ่งไม่เชื่อความฝันเป็นเรื่องจริง 

          

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังบ้านจุดที่เกิดเหตุ คดีผัวโหดฆ่าเมียฝังศพนาน 8 เดือน พร้อมพบกับนางโก เย็นฉ่ำ อายุ 90 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายไพรบูรณ์ ผู้ต้องหา กล่าวกับผู้สื่อข่าว ว่า เรื่องที่ลูกสะใภ้ถูกฆ่าตนเองก็เพิ่งทราบเช่นกัน เพราะไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ ปกติลูกชายเป็นคนทำมาหากิน นิสัยไม่ได้ดุร้าย แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องลงมือฆ่าฝังศพเมียไว้ข้างบ้าน ซึ่งอาจเป็นเพราะเหลืออดเหลือทนจนพลั้งพลาดไป 


“ลูกชายเจ้าชู้มีเมียมาแล้วถึง 3-4 คน สะใภ้คนที่ 5 นี้มันไม่เหมือนทุกคนที่ผ่านมา เพราะมันไม่ทำมาหากิน ดุด่า ทะเลาะกับลูกชาย ทำร้ายร่างกายลูกฉัน ที่มันลงมือฆ่าก็คงเพราะมันเหลืออด ต่อไปนี้ก็ขอให้เป็นเวรเป็นกรรม ชดใช้กรรมกับเรื่องที่มันก่อแล้วกัน”


ด้านนายเสกสรรค์ สารรัชต์ อายุ 44 ปี น้องชาย ผู้ตายผู้ที่เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เล่าว่า ตนเองยังโกรธแค้นไม่หาย ที่พี่เขยจอมโหด ทำหน้าตายหน้าซื่อ โดยไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำตัวเปรียบเสมือน คล้ายยังอาลัยอาวรณ์พี่สาวตน ทั้งๆ ที่เป็นคนลงมือฆ่า ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่ยอมยกโทษเป็นอันขาด ขอให้มันติดคุกติดตะราง ชดใช้กรรมเวรที่มันก่อขึ้นมา ก่อนที่จะตะโกนด่าหลังจากที่ นายไพรบูรณ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกตูม นำตัวขึ้นรถเพื่อไปฝากขังที่เรือนจำกลางลพบุรี เพื่อรอขึ้นศาล

...

   

       

นายเสกสรรค์ เล่าต่อว่า ครอบครัวตนเชื่อสนิทใจว่าพี่สาวหนี ตีจากนายไพรบูรณ์ไปจริงๆ ในส่วนตัวยังนึกสงสารเห็นใจพี่เขยจอมโหด ที่มาร้องไห้คร่ำครวญ ต่อหน้าแม่ยาย และทุกคนที่บ้าน อ้างคิดถึงพี่สาวไม่รู้เป็นตายร้ายดีอยู่ที่ไหน และมักเอาของฝากติดมือมาให้แทบทุกครั้ง จนล่าสุดกลางดึกกลางเดือนมีนาคม ตนเองได้ยินเสียงพี่สาวร้อง เรียกขอให้ช่วยเหลือ เพราะถูกฆ่าฝังดินอยู่ที่ข้างบ้าน ซึ่งเป็นที่ดินว่างเปล่าของผู้อื่น ตื่นตอนเช้าได้เล่าความฝันให้หลายคนฟัง รวมถึงนายจิรพัฒน์ ลูกชายคนตาย รวมถึงเพื่อนบ้านที่แอบเห็นพฤติการณ์นายไพรบูรณ์แปลกๆ ที่มักออกมาที่จุดดังกล่าวตอนดึกๆ เอาเหล้า เอาข้าวมานั่งกิน เทเหล้า ตักข้าวลงพื้นดิน และพูดพร่ำ ขออโหสิกรรม ชาติหน้ามีจริงขอมาเป็นผัวเป็นเมียกันอีก หลังจากนั้นได้เดินทางมาดูตามความฝัน และคำบอกเล่าของเพื่อนบ้าน ซึ่งจุดฝังศพเป็นที่ดินว่างเปล่าเนื้อที่ไม่กี่ตารางเมตร ซึ่งเป็นของอดีตผู้ใหญ่บ้านที่ให้เพื่อนบ้านปลูกผักสวนครัวทำกิน ห้ามปลูกสิ่งถาวร 

            

นายเสกสรรค์ เล่าต่อว่า เมื่อเปิดประตูข้างบ้านก็พบว่ามีเนินดินอยู่จริงแต่ไม่มีร่องรอยอะไร มีเพียงจานใส่อาหารคล้ายให้สุนัขวางอยู่ จึงได้ทดลองใช้ชะแลงลองขุดดู แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ก่อนตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความในวันที่ 27 มี.ค. 67 และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงนายไพรบูรณ์ พี่เขย มีพิรุธได้วิ่งหลบหนี ก่อนควบคุมตัวไว้ได้ นำตัวสอบที่ สภ.กว่า 3 ชั่วโมง ก่อนเปิดปากรับสารภาพว่าฆ่า น.ส.สุนันทา เมียสาวตายฝังร่างไว้ที่เนินดินข้างบ้านดังกล่าวจริง ทำให้นายเสกสรรค์ถึงกับขนลุกเนื่องจากฝันนั้นไม่คิดว่าจะเป็นจริง 

         

นายจิรพัฒน์ แสงเดือน อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นลูกชายอดีตสามีเก่าของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ที่แม่ถูกฆ่า พ่อเลี้ยงยังทำทีโทรไปหาตน ในขณะที่ยังรับราชการทหารอยู่ โดยบอกว่า แม่ได้หายออกจากบ้านไปไม่รู้ว่าหายไปไหน หากว่าแม่ติดต่อมาช่วยบอกให้ทราบด้วยว่าคิดถึง เป็นห่วง ซึ่งตนเองก็มีความกังวลว่าแม่หายไปไหน เมื่อถึงเวรลา ก็รีบกลับมาตามหาแม่ และหลังจากปลดประจำการออกมา ก็ได้ออกติดตามหาแม่ แต่ไม่พบจนมาทราบว่าแม่เสียชีวิตเมื่อวานนี้ จากน้ำมือพ่อเลี้ยงโหดที่โกหกมาตลอดระยะเวลาเกือบ 8 เดือน 

      

...

 

น.ส.กานดา ถา อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ตาย ซึ่งไม่ขอพูดอะไรมากนอกจากเสียใจที่พี่สาวต้องมาถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดเช่นนี้อยากให้ คนฆ่าได้รับกรรมอย่างสาสม

       

ล่าสุดนางสมัย นันท้าว อายุ 65 ปีแม่ผู้ตาย เล่าด้วยน้ำตาคลอ ว่า ลูกเขยคนนี้ตีหน้าตายได้สนิทเช่นนี้ หลังจากลูกสาวถูกฆ่าตาย ยังทำดีกับครอบครัวของตน วนเวียนมาหาครอบครัวของตน ซื้อของมาให้ มาทำอาหารกิน ร้องไห้ ที่ ลูกสาวแม่หายไป สร้างสถานการณ์ว่า รักและคิดถึงลูกสาวของตนเอง ซึ่งล่าสุดเมื่อวานช่วงก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมารวบตัวยังไปร้องไห้กับตนที่บ้าน ร้องไห้ว่าคิดถึงลูกสาว อยากจะออกติดตามหาให้พบ คิดถึงและเป็นห่วงมาก จนตนเอง ตายใจ พลอยสงสาร ลูกเขยโหดคนนี้ไปด้วย จนมาทราบว่า ความเสแสร้ง ของไอ้ลูกเขยคนนี้มันจอมปลอมและโหดเหี้ยมเกินมนุษย์อยากให้มันได้รับโทษอย่างสูงสุด และไม่ต้องมาขอโทษ ขอขมาศพลูกตน 

           

ซึ่งเมื่อเวลา 10.15 น. ตำรวจ สภ.โคกตูม ได้เร่งนำตัวนายไพรบูรณ์ ออกจากห้องควบคุม ขึ้นรถและขับออกจาก สภ.อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเกรงจะถูกกลุ่มญาติผู้ตายรุมประชาทัณฑ์ ซึ่งในเหตุการณ์นี้ไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และชี้จุดฆ่าไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวฝากขังที่เรือนจำกลางลพบุรี เพื่อรอส่งศาลพิจารณาคดีต่อไป