ตำรวจไซเบอร์ ทลายแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ใกล้มหา'ลัยชื่อดัง กลางเมืองชลบุรี สารภาพรายได้วันละ 500,000 บาท หรือเดือนละ 15 ล้านบาท "บิ๊กเจี๊ยบ ผบช.สอท." เตือน บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย 1 แท่ง ร้ายแรงเท่าบุหรี่ซอง 20 ซอง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 มีนาคม 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. พ.ต.อ.สุรพงศ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษ ฝ่ายการสอบสวน 1 พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)  

ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “JOINT CYBER OPERATION” ทลายแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้มหา'ลัยฯ ชื่อดัง กลางเมืองชลบุรี ตรวจยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ กว่า 5,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

...

พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับในเรื่องนี้ เริ่มต้นจาก ทางชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.2 ได้เข้าจับกุมผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้ารายย่อยที่ลักลอบขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในพื้นที่ ต.หนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า รวม 370 ชิ้น มูลค่าของกลางคิดเป็นเงินจำนวนประมาณ 50,000 บาท ไปแล้วก่อนหน้านี้  

จากนั้นทางชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.2 ได้สืบสวนขยายผลเพื่อให้ถึงแหล่งจุดกระจายสินค้า และผู้ทำหน้าที่ค้าส่งหรือส่งสินค้าหรือผู้ค้ารายใหญ่ จนทราบว่า นายรัชชานนท์ สุขนคร อายุ 25 ปี เป็นผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จำหน่ายและเป็นผู้จัดส่งสินค้า ประกอบด้วย เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ทำการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.148/2567 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2567 และหมายค้นศาลจังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าจับกุมผู้กระทำผิดและตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยจะเป็นแหล่งเก็บ ซุกซ่อนและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2 จุด ประกอบด้วย จุดแรกที่บ้านเลขที่ 12/25 ภายในซอยบางทราย 63 หมู่ที่ 5 ต.บางทราย อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี 

และจุดที่สองร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าชื่อ “TS LELX” ตั้งอยู่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสถานศึกษาชื่อดังของจังหวัดชลบุรี เพียง 300 เมตร 

ต่อมา พ.ต.อ. จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.ท.เอกภณ คณะญาพงศ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.2 และพ.ต.ท.ประดิษฐ์ ศรีกุฎ สว.กก.2 บก.สอท.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) นำกำลังพร้อมหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีเข้าจับกุมตัวนายรัชชานนท์ เจ้าของร้านพร้อมของกลางเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ จำนวนมาก 

ในความผิดฐาน "ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ โดยประการใดๆ ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่มิได้ผ่านพิธีศุลกากรฯ, ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า"

จากการสอบสวน นายรัชชานนท์ ให้การยอมรับว่าได้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ามานานกว่า 2 ปี เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่องทางทำรายได้สูงอย่างรวดเร็ว  โดยมีรายได้จากการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าวันละ 500,000 บาท หรือเดือนละ 15 ล้านบาท

...

ด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งทางรัฐบาลและทางบช.สอท. ได้ตระหนักถึงพิษภัยและโทษของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้ามีการมุ่งเป้าทำการตลาดกับเด็กและเยาวชน และบุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นประตูให้เด็กและเยาวชนสู่ยาเสพติดชนิดอื่นๆ ซึ่งผู้ค้ามีการเปลี่ยนรูปแบบของการผลิต โดยผลิตเป็นรูปแบบของตัวการ์ตูน และแต่งกลิ่นและรสชาติ เช่น รสผลไม้ รสช็อกโกแลต มากกว่า 16,000 รูปแบบ เพื่อยั่วยวนและโน้มน้าวเด็กและเยาวชนมาซื้อ 

อย่างไรก็ตาม บุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นสินค้าอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งทางการแพทย์ยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้า 1 แท่ง ร้ายแรงเท่าบุหรี่ซอง 20 ซอง ขณะเดียวกันในการจับกุมครั้งนี้จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ค้ามีการลักลอบเปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้กับสถานศึกษา เพื่อหวังหากลุ่มลูกค้าที่เป็นนักศึกษา และเพิ่มช่องทางให้ซื้อหาได้ง่ายขึ้น.