สาวใหญ่อาชีพ “นางฮ้อย” เลี้ยงควายริมเขื่อนลำปาว กาฬสินธุ์ ถูกสามีเดนคุก แทงร่างพรุน 7 แผล ใช้เชือกรัดคอศพลากมัดกับต้นไม้ ถ่วงน้ำในเขื่อนลำปาว สาเหตุจากความหึงหวง หวาดระแวงฝ่ายหญิงจะมีคนอื่น
เวลา 11.00 น.วันที่ 13 มีนาคม 2567 ร.ต.อ.เริงศักดิ์ แก้วเสน่ห์ใน ร้อยเวร สภ.ลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุพบศพคนเสียชีวิต ถูกมัดติดอยู่กับต้นไม้ในน้ำเขื่อนลำปาว บริเวณบ้านโนนศาลา ม.13 ต.ภูดิน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ สงสัยว่าจะถูกฆาตกรรม หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.อติวัณณ์ หวลศรีไทย สว.สภ.ลำปาว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลกาฬสินธุ์
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานดิน ซึ่งมีกระท่อมพัก ริมเขื่อนลำปาวเขตพื้นที่บ้านโนนศาลา ม.13 ต.ภูดิน อ.เมืองกาฬสินธุ์ พบศพผู้เสียชีวิตเพศหญิง ทราบชื่อคือนางสมพิศ เสนากิจ อายุ 53 ปี อยู่หมู่ 13 บ้านโนนศาลา ต.ภูดิน สภาพถูกเชือกรัดที่คอ มัดติดอยู่กับต้นไม้ในน้ำเขื่อนลำปาว ห่างจากฝั่งประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่จึงนำศพขึ้นมาตรวจสอบ พบบาดแผลถูกมีดแทงที่บริเวณลำคอ 3 แผล และลำตัวอีก 4 แผล รวม 7 แผล ยังมีเลือดยังไหลออกมา บริเวณลำคอมีรอยเชือกรัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 1 ชั่วโมง
ตรวจสอบตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุพบรอยลากศพ และคราบเลือดจากกระท่อมที่พักยาวไปถึงริมน้ำกว่า 20 เมตร คาดว่าคนร้ายลงมือฆ่าแล้วใช้เชือกรัดคอลากศพไปผูกมัดกับต้นไม้ในเขื่อนเพื่ออำพราง ซึ่งพล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจในที่เกิดเหตุ และสอบสวนพยานเบื้องต้นพบว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุฆ่านางสมพิศ คือนายสำราญ อายุ 59 ปี อยู่หมู่ 13 โนนศาลา ต.ภูดิน ซึ่งเป็นแฟนใหม่ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวแล้ว
...
เบื้องต้นทราบว่า ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตซึ่งมีอาชีพเลี้ยงควายไว้ขาย หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า นางฮ้อย ได้นำควายมาเลี้ยงบริเวณที่เกิดเหตุ และนอนพักที่เปลในกระท่อม ต่อมานายสำราญ ซึ่งเป็นแฟนใหม่ที่คบหาอยู่กินมาได้ประมาณ 2 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาหา คาดว่าทั้งสองคนน่าจะมีปากเสียงกัน เนื่องจากนายสำราญนั้นมีนิสัยขี้หึง ระแวงตลอดว่านางสมพิศจะไปมีชายอื่น จึงอาจเป็นสาเหตุในการลงมือในครั้งนี้
ด้านนายอาทิตย์ เสนากิจ อายุ 32 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า แม่เริ่มคบหากับนายสำราญ ซึ่งเพิ่งออกจากคุก อยู่กินฉันสามีภรรยาได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา นายสำราญมักจะทำร้ายผู้เป็นแม่บ่อยครั้ง บางครั้งก็ขู่ฆ่า เพราะนายสำราญมีนิสัยหึงหวง ติดตามแม่ตลอดเวลา หวาดระแวงว่าแม่จะไปมีคนอื่น ที่ผ่านมาตนก็ไม่ค่อยถูกกับนายสำราญ เพราะชอบทำร้ายแม่ แต่แม่ก็ไม่เคยบอกว่าถูกนายสำราญทำร้าย เนื่องจากกลัวว่าตนกับนายสำราญจะทะเลาะกัน กระทั่งวันเกิดเหตุช่วงเช้าแม่นำควายออกมาเลี้ยงตามปกติ จนสายก็ยังไม่มากินข้าว และไม่สามารถติดต่อได้ จึงออกตามหาเห็นแต่รถจักรยานยนต์จอดไว้ มีรอยลาก กับคราบเลือด ก่อนไปพบศพของแม่ถูกผูกมัดไว้กับต้นไม้ในเขื่อนลำปาว
ด้านนายสมคิด ภูพาดหิน อายุ 51 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สามีเก่าของพี่สาวได้เสียชีวิตไปแล้ว ปกติพี่สาวเป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริงเป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน จะมีบ้างที่ไปพบปะกับสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนบ้านหญิงตามงานบุญ งานประเพณี แต่ก็ไม่เคยสร้างปัญหา สร้างความเดือดร้อน หรือสร้างความเสื่อมเสีย ส่วนนายสำราญนั้นมาคบกับพี่สาวได้ประมาณ 2 ปี แต่เหมือนจะมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะนายสำราญมักจะติดตามพี่สาวไปทุกที่ตลอดเวลาด้วยความหึงหวง และระแวง กระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้ ลงมืออย่างโหดเหี้ยม