ที่แท้ฝีมือสาวทอมคู่ขา เผานั่งยางสาวดี้ทิ้งบ่อขยะ อ้างไม่ได้ฆ่า แต่เหยื่อสำลักข้าวหมดสติสิ้นใจเอง ตกใจทำอะไรไม่ถูกและกลัวความผิดใช้ผ้าห่อร่างลากขึ้นท้ายรถเก๋งขับออกจากบ้านใน จ.สมุทรปราการ มาถึง จ.ขอนแก่น เก็บศพไว้ในรถ 1 วัน ก่อนใช้ยางรถยนต์เก่าสุมราดน้ำมันจุดไฟเผาทิ้ง ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ผลชันสูตรยันเหยื่อมีรอยแผลถูกของมีคมบนแผ่นหลัง เร่งสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม เค้นหาความจริงให้กระจ่าง
จากเหตุสะเทือนขวัญ กรณีพบศพหญิงนิรนามถูกเผานั่งยางในบ่อขยะทางทิศตะวันออกบ้านหนองดู่ หมู่ 4 ต.ละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 17 ก.พ. สภาพศพเหลือแต่โครงกระดูกในท่าขดตัว ใกล้กันมีเศษเส้นผมตกอยู่เป็นกระจุกและขดลวดยางรถยนต์ เจ้าหน้าที่ส่งตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลทราบว่าเป็นเพศหญิง สูงราว 160 ซม. มีรอยถูกของมีคมบริเวณแผ่นหลัง ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีรวบรวมพยานหลักฐานและติดตามตัวผู้ก่อเหตุ จับกุมผู้ต้องหาคือ น.ส.ไพจิตร หรือไก่ คนคิด อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172 บ้านหนองดู่ หมู่ 4 ต.ละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น จับตัวได้ที่บ้านพร้อมรถเก๋ง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ส่วนผู้ตายทราบชื่อ น.ส.เบญญาภา หรือเป้ ปาณพันธ์ประภา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/76 หมู่ 20 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ความคืบหน้าคดีเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 ก.พ. พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รอง ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.สมมาตย์ มั่งไธสง ผกก.สภ.แวงน้อย พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จ.ขอนแก่น ร่วมกันสรุปผลสอบสวน น.ส.ไพจิตร หรือไก่ คนคิด อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย
น.ส.ไก่ ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า รู้จักและสนิทกับ น.ส.เป้นานแล้วและย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน น.ส.ไก่ ในพื้นที่บ้านหนองดู่ เมื่อ 7 ปีก่อน กระทั่งวันที่ 12 ก.พ. ชวนกันขับรถเก๋งฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทะเบียน 1 กค 4384 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตาย ออกจาก จ.ขอนแก่น เพื่อไปดูบ้านของ น.ส.เป้ ที่จ.สมุทรปราการ จากนั้นนั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกันที่บ้านหลังดังกล่าว จู่ๆ น.ส.เป้สำลักอาหารและชักกระตุกหมดสติสิ้นใจตาย ด้วยความตกใจไม่รู้จะทำอย่างไร กลัวจะมีความผิดและกลัวถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตาย ได้ใช้ผ้าห่อร่าง น.ส.เป้ลากไปใส่ท้ายรถเก๋ง เอากล่องบรรจุสิ่งของวางทับไว้ แล้วขับกลับมาบ้าน จ.ขอนแก่น ต่อมาวันที่ 13 ก.พ. ตระเวนหายางรถยนต์เก่าในหมู่บ้านมาได้ 2 เส้น และซื้อน้ำมันเบนชิน 95 จำนวน 1 แกลลอน ราคา 100 บาท ที่ปั๊มน้ำมันพีที ริมถนนสายแวงน้อย-ชัยภูมิ รอถึงเวลา 16.00 น. ขับรถเก๋งนำร่างของ น.ส.เป้ไปเผาทิ้งที่บ่อขยะจุดเกิดเหตุ แล้วกลับเข้าบ้านตามปกติทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
...
ต่อมาตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ่อขยะเกิดเหตุ เริ่มตั้งแต่ผู้ต้องหาขับรถเก๋งคันดังกล่าวไปจอดบนถนนรอบบ่อขยะ ในรถมีศพ น.ส.เป้ถูกห่อด้วยผ้าขาวม้าและที่นอนปิกนิกวางไว้ท้ายรถ ที่เบาะหลังวางยางรถยนต์เก่า 2 เส้น ส่วนแกลลอนน้ำมันวางไว้ที่วางเท้าฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับ ผู้ต้องหาอุ้มร่างผู้ตายลงจากรถไปวางไว้ที่ขอบบ่อขยะ แล้วขนยางรถยนต์นำไปสไลด์ลงบ่อขยะทั้ง 2 เส้น แล้วลากร่างผู้ตายไปยัดใส่ยางรถยนต์ ราดน้ำมันจุดไฟเผาแล้วขับรถกลับบ้าน
ภายหลังการทำแผน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รอง ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การสอบสวน น.ส.ไก่ยอมรับเพียงว่านำร่าง น.ส.เป้มาเผานั่งยางที่บ่อขยะ ในช่วงเย็นวันที่ 13 ก.พ.จริง แต่ไม่ยอมรับว่าฆ่า อ้างผู้ตายสำลักข้าวแล้วหมดสติเสียชีวิตเอง ในจุดนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องสอบสวนพยานแวดล้อม รวมทั้งญาติผู้ตายและการนำร่างผู้ตายใส่ท้ายรถเก๋งไว้ 1 วันก่อนนำไปเผานั่งยาง ผู้ต้องหาใช้ชีวิตอย่างไร เพราะผู้ต้องหามีลูกชายบุญธรรมวัย 6 ขวบ 1 คน ที่ต้องไปรับและส่งที่โรงเรียน และยังต้องดูแลพ่อแม่ ต้องสอบสวนเพิ่มเติมในส่วนที่พนักงานสอบสวนยังติดใจ
“จากการรับสารภาพในขณะนี้ ผู้ต้องหาให้การว่าทำทุกขั้นตอนคนเดียวไม่มีใครอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย และไม่มีความเคียดแค้นกับผู้ตาย เป็นเพียงแค่การไม่กล้าบอกญาติ ไม่กล้าแจ้งตำรวจเพราะกลัวความผิด แต่การนำศพมาเผานั่งยางมีความผิดในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร เพราะรถเก๋งคันที่ใช้บรรทุกศพมาจาก จ.สมุทรปราการ เป็นของผู้ตาย ส่วนการขนย้ายศพและเผานั่งยางได้แจ้งข้อหาซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย” พ.ต.อ.ปรีชากล่าว
พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การรับสารภาพของผู้ต้องหายังไม่เคลียร์ ยังมีประเด็นที่น่าสงสัยที่ต้องสืบสวนสอบสวนต่อ เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนเชิงลึกของตำรวจพบว่า ทั้งคู่คบหากันและใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาหลายปี น.ส.เป้ ผู้ตายเป็นดี้ ส่วน น.ส.ไก่ ผู้ก่อเหตุเป็นทอม ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันในบ้านของ น.ส.ไก่ถึง 7 ปี แต่ช่วง 2-3 ปีหลัง น.ส.ไก่เปลี่ยนตัวเองจากทอมมาเป็นหญิงเต็มตัวและมักบอกกับคนอื่นว่าตัวเองโสด จนมีปัญหาชีวิตคู่ สุดท้าย น.ส.เป้ ได้เสียชีวิตอย่างปริศนา ผลชันสูตรศพยังพบบาดแผลของมีคมที่แผ่นหลังผู้ตาย ทำให้ตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนต่อไป หากพบมีคนที่เกี่ยวข้องต้องจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายและแจ้งข้อหาเพิ่มกับ น.ส.ไก่ด้วย
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่