7 โจ๋ซ่า ยิงอริวัย 14 ดับ 1 ย่านนวมินทร์ มอบตัวแล้ว ยอมรับสารภาพ อ้างปืนลั่น-ไม่มีเจตนา แค่ต้องการข่มขู่ ตำรวจเตรียมฝากขังศาลเยาวชนฯ 24 ก.พ.นี้ 

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 23 ก.พ.67 ร.ต.ท.ภาคิน พรมฟู รอง สว.(สอบสวน) สน.โคกคราม รับแจ้งเหตุชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณใกล้เคียงกับแยกรามอินทรา กม. 8 ถนนนวมินทร์ช่วงขาออก แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.โคกคราม แพทย์ รพ.นพรัตน์ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากซอยนวมินทร์ 163 ประมาณ 20 เมตร บริเวณฟุตปาททางเท้าพบร่าง ด.ช.บอล (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ชาว จ.เชียงราย นอนจมกองเลือด ใส่เสื้อยืดคอกลมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณขมับซ้าย 1 นัด ด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากเสียเลือดจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมประสานขอรถกู้ชีพขั้นสูง จาก รพ.นพรัตน์ เข้ามาช่วยเหลือ เพื่อเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่ง รพ.นพรัตน์ โดยด่วน แต่ก็ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

จากการตรวจสอบพบหัวกระสุนตกอยู่ 1 หัว หมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบตกอยู่ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.โคกคราม อยู่ระหว่างลงพื้นที่หาข้อมูล และได้เชิญตัวเพื่อนของผู้บาดเจ็บไปสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถาม นายนพ พ่อผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ตนไปทำงานนอกบ้านราว 2 ทุ่ม ลูกอยู่บ้านตามลำพัง โทรมาหาตนเพื่อขอออกไปซื้อกับข้าว ก่อนที่ประมาณตี 2 ตนได้รับสายโทรศัพท์แจ้งมาว่า ลูกชายของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชึวิตในช่วงบ่าย ลูกเป็นคนที่เกเรและมักจะมีเรื่องถูกต่อยกับเพื่อนเป็นประจำ เคยถึงขนาดถูกฟันที่มือซ้ายมาก่อน ที่ผ่านมาตนก็เคยสั่งสอนห้ามปรามลูก แต่เป็นคนติดเพื่อนและรักเพื่อน เคยขับรถไปกับเพื่อนที่สะพานพระราม 8 และสะพานพุทธก็เคยมาแล้ว แต่เขาก็สามารถพึ่งพาตัวเองได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ตนก็รู้สึกเสียใจมาก หากมีโอกาสได้คุยกับกลุ่มผู้ก่อเหตุก็อยากจะถามว่า ทำไมถึงทำกันรุนแรงเพียงนี้ หากชกต่อยกันตามปกติทั่วไป ตนก็ไม่ว่าอะไร แต่นี่ถึงขนาดลงไม้ลงมือใช้ปืนยิงกัน มันเกินกว่าเหตุไปหรือไม่ อยากให้รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ลูกตนเรียนจบชั้น ป.6 เตรียมที่จะขึ้น ม.1 แต่ยังไม่ได้เรียน

...

ด้าน พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถพิสูจน์ทราบกลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุได้แล้ว 7 ราย เป็นเยาวชนอายุ 12-17 ปี ที่อยู่ในละแวกพื้นที่นี้ ส่วนฝั่งผู้บาดเจ็บนั้นซ้อน จยย.มากัน 3 คน ถูกยิง 1 คน อาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับกลุ่มเพื่อนผู้บาดเจ็บแล้ว ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสอบปากคำกลุ่มเพื่อนผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม ตามขั้นตอนของกฎหมายคุ้มครองเด็ก คดีนี้ทางพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนจะติดตามคดีอย่างใกล้ชิด ถือว่าเป็นคดีที่ละเอียดอ่อน เนื่องจากทั้งฝั่งผู้บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุนั้น ล้วนเป็นเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ทั้งหมด และอยู่ระหว่างประสานสหวิชาชีพมาสอบปากคำกลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุทั้ง 7 คน โดยละเอียด เบื้องต้นแจ้งข้อหากลุ่มผู้ก่อเหตุร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ" หากทำการสอบสวนแล้วเสร็จ จะนำตัวไปฝากขังศาลเยาวชนและครอบครัวกลางต่อไป

นอกจากนี้ มีรายงานแจ้งว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 7 คน มาด้วยรถ จยย. 3 คัน มุ่งหน้าไปทางคู้บอน คันแรก 2 คน คันที่สอง 3 คน คันที่สาม 2 คน จากนั้น จยย.คันแรกได้มาพบกับกลุ่มผู้บาดเจ็บซ้อน จยย.มากัน 3 คน อายุ 14-17 ปี บริเวณปากซอยนวมินทร์ 163 โดยกลุ่มผู้บาดเจ็บได้เข้าไปทะเลาะวิวาทกันกับผู้ก่อเหตุ เพราะเข้าใจว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมาแค่คันเดียวและคนน้อยกว่า จากนั้น จยย.คันแรกได้ขี่หนี พวกที่ขี่ตามหลังมาเห็นพอดีจึงเข้าไปช่วยเพื่อนคันแรก ซึ่งมือปืนยอมรับสารภาพว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะยิง ต้องการเพียงแค่ข่มขู่ แต่เพื่อนใช้หมวกกันน็อกจะฟาดไปที่คนเจ็บ แต่พลาดมาโดนปืนเลยทำให้ปืนลั่น และได้นำปืนที่ก่อเหตุ ซึ่งเป็นปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด.38 มามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย ส่วนสาเหตุอ้างว่า เนื่องจากเคยมีเรื่องวิวาทกันมาก่อน โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของผู้บาดเจ็บ และเคยมีปัญหากับผู้บาดเจ็บโดยตรงมาก่อน

ต่อมา เวลา 17.00 น. จากการสอบปากคำเยาวชนทั้ง 7 คน โดยมีสหวิชาชีพร่วมฟังด้วย เบื้องต้นได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุเห็นเพื่อนถูกไล่ทำร้ายจึงไปช่วย แต่นายก๊อป (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ที่พกปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 มาด้วยนั้น ได้ชักปืนออกมาเพื่อขู่เท่านั้น และเป็นจังหวะเดียวกันที่เพื่อนถือหมวกกันน็อกจะไปฟาดอริ แต่พลาดมาโดนปืน จึงเป็นเหตุสลดดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่เป็นอริกันนั้น เพราะเคยมีเรื่องวิวาทกันมาก่อน เมื่อรู้ว่าเป็นฝั่งอริก็มีการปะทะกันบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นเด็กในพื้นที่ย่านนวมิทร์เหมือนกัน รู้จักกันหมดแต่มีการแบ่งแยกพรรคพวกออกไปหลายกลุ่ม เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนแล้วเสร็จ จะนำตัวไปฝากขังศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.)