ตำรวจนำตัว ทอย สามีโหด ทำแผนฆ่าเผา น้องนุ่น ภรรยาสาววัย 27 ปี จากนนทบุรี นำศพมาอำพรางในป่ายาง พื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เผยนาทีนักข่าวใช้จีพีเอสหาศพจนมืดค่ำ กำลังเลี้ยวรถกลับ เหลือบไปเห็นท่อนดำๆ คล้ายคนถูกไฟไหม้ ก่อนเห็นสร้อยข้อมือทองสะท้อนแสง เหมือนดลใจให้มีคนไปเจอ  


กรณีพบศพหญิงสาว ทราบต่อมาคือ น้องนุ่น น.ส.ชลลดา มุธุวงศ์ หรือนุ่น อายุ 27 ปี  ถูกเผาในป่ายางในพื้นที่ ม.10 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ก่อนมีการจับกุมนายศิริชัย รักทอง หรือทอย อายุ 33 ปี สามีน้องนุ่น ในท้องที่ สภ.ปากเกร็ด  จ.นนทบุรี ซึ่งให้การรับสารภาพว่าฆ่าภรรยา นำศพมาเผาทิ้ง 

ความคืบหน้า วันที่ 21 ก.พ. 67 ร้อยเวรสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ  จ.ปราจีนบุรี ได้ให้หน่วยกู้ภัยนำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลและหาสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมายผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ที่เป็นผู้พบศพคนแรกมาให้ปากคำที่ สภ.ระเบาะไผ่ ช่วงเที่ยงวันนี้

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจากสำนักต่างๆ ได้เดินทางลงมาเกาะติดสถานการณ์ ณ จุดเผาศพ ที่อยู่ห่างจากถนนสาย 359 สระแก้วตัดใหม่ ประมาณ 300 เมตร เนื่องจากทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเดินทางนำตัวนายศิริชัย หรือทอย สามีน้องนุ่น มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งคาดว่าจะเดินทางมาถึงช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. 

นายยุทธภูมิ นวลสมศรี 38 ปี ผู้ดูแลสวนยาง ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะที่ตนเองขับรถจยย มาดูคนงานกรีดยางมันในสวน ห่างจากจุดที่เผาโครงกระดูกประมาณ 6-7 เมตร เห็นว่ามีกองไฟมอด แต่ไม่ได้สังเกตว่าเป็นร่างมนุษย์ถูกเผา นึกว่า เป็นตอไม้ถูกเผาทิ้ง เพราะปกติเวลาเผาตอไม้ก็จะกวาดเก็บบริเวณรอบ ๆ มากองไว้ โดยเห็นตั้งแต่เช้า วันที่ 18 ก.พ. 67 จนมารู้ตอนที่มีตำรวจมาเมื่อเย็นวานนี้ ปกติแถวนี้เวลากลางคืนจะไม่มีชาวบ้านผ่านเพราะมืด ส่วนมากจะเป็นคนกรีดยางที่เข้ามาบริเวณนี้  และรถที่เข้ามาก็เป็นรถกะบะของชาวบ้านที่มาดูแลสวนยาง ส่วนรถเก๋งหรูนั้นตนไม่เห็น ช่วงที่มาพบกองไฟไหม้ พบช่วงเวลา 09.00-10.00 น. ของวันที่ 18 ก.พ. 

...

สำหรับเหตุการณ์ช่วงที่พบศพน้องนุ่น ได้มีผู้สื่อข่าวช่องอมรินทร์ ซึ่งติดตามลงพื้นที่ในคดีน้องนุ่น ประสานงานกับส่วนกลางจนได้ข้อมูลพิกัด GPS จึงได้ขับตามหมุดมา ก่อนจะเข้าซูมดูแผนที่ พบจุด GPS สุดท้าย และขับรถวนดูผ่านสวนชาวบ้าน จน 6 โมงเย็นใกล้จะมืดแล้วยังไม่เจออะไร พื้นที่ตรงนั้นมีแต่ใบไม้ปกคลุมและไม่มีคน ก็เลยขับรถวนเพื่อจะหาชาวบ้าน ถามว่ามีใครเห็นอะไรที่ผิดหูผิดตาบ้างไหม ขณะเลี้ยวรถเพื่อจะกลับออกมา ทีมงานได้มองเห็นเป็นท่อนๆ ถูกไฟไหม้ ทีแรกคิดว่าชาวบ้านคงเผาไม้ จึงได้ลงไปดูแล้วสะดุดตาสร้อยข้อมือสีทองที่คล้ายของน้องนุ่นที่หายตัวไป จึงไปดูรอบๆ เห็นคล้ายกะโหลกมนุษย์ มีฟัน จึงได้ถามกันในทีมว่าลงความเห็นว่ายังไง ใช่ร่างมนุษย์หรือไม่ ทุกคนลงความเห็นว่าใช่ จึงได้โทรปรึกษากับกอง บก. ก่อนตัดสินใจโทรแจ้ง 191 ซึ่งทีแรกเพียงสะดุดตาสร้อยข้อมือที่ศพ แต่ยังไม่กล้ายืนยันว่าเป็นน้องนุ่น