"บิ๊กโจ๊ก" ยันถูกดิสเครดิต จ่อเอาผิด "พ.ต.อ." หัวหน้าชุดทำคดีเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ หลังปล่อยสำนวนออกสื่อ ยันเงินให้ลูกน้องไม่เกี่ยวเว็บพนัน เพราะไม่มีอำนาจคุมไซเบอร์ เตือนคนทำถึงเวลามีปัญหาเกิดขึ้น จะต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีนายเคียงข้าง เจอมาหมดแล้ว
จากกรณีที่ บช.สอท. ได้ออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ไปสอบปากคำในฐานะพยานในวันพรุ่งนี้ ปมโยงเว็บพนันของ "มินนี่"
ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ระบุว่า มีการปูพื้นมาจากเว็บพนันของเครือข่ายมินนี่ และมีการโยงเส้นทางการเงินมายังลูกน้องของตนทั้ง 8 คน และสำนวนคดีมีการสั่งฟ้องไปยังอัยการแล้ว ซึ่งเมื่อสั่งฟ้องอัยการแล้ว ตำรวจจะหมดอำนาจทันทีในการสอบสวน ถ้ามีการสอบสวนจะต้องมีคำสั่งจากอัยการเท่านั้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ เนื่องจากตนไม่ได้ให้คุณให้โทษกับเว็บพนัน และตนไม่ได้คุมไซเบอร์ ถึงแม้ว่าจะเป็นรอง ผบ.ตร. ที่ดูความมั่นคงก็ตาม ส่วนกรณีพบเส้นทางการเงินของตนโอนไปยังลูกน้องนั้น ยืนยันว่าเป็นเงินที่ตนให้ไปทำงาน ไม่ใช่เงินที่มาจากเว็บพนัน ส่วนที่ตนต้องตกเป็นเป้าหมายนั้น เชื่อว่าสังคมรู้ดีว่าเป็นการดิสเครดิตตน ส่วนจะเป็นเรื่องไหนนั้นไม่ขอพูด และเชื่อว่าจะมีการแต่งบทละครใส่ร้ายให้เสียชื่อเสียง จนกว่าคดีนี้จะยุติ
ส่วนหมายเรียกของ สอท. ที่ระบุว่า ให้ไปให้การในฐานะพยานนั้น จนถึงขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการประสานแต่อย่างใด ส่วนจะเดินทางไปหรือไม่นั้น ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจอะไร และต้องเป็นคำสั่งของอัยการเท่านั้นถึงจะเดินทางไป เพราะสำนวนคดีนี้อยู่กับอัยการ และส่วนหนึ่งอยู่ที่ ป.ป.ช. คดีนี้ตนรู้สึกสงสารลูกน้อง และพนักงานสอบสวนบางคนที่ถูกเรียกมาเซ็นชื่อแต่ไม่ได้ทำสำนวน ขอเตือนว่าพอถึงเวลาปัญหาเกิดขึ้น จะต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีนายอยู่เคียงข้าง เพราะตนเจอมาหมดแล้ว พร้อมเตือนสื่อมวลชนที่แชร์ข่าวให้ตนได้รับความเสียหายว่าให้พึงระวัง หากข่าวดังกล่าวไม่จริง ตนจะใช้กฎหมายดำเนินการ
...
ส่วนกรณีอัยการถูก 1 ใน 8 ลูกน้องของตนไปคุกคาม สะกดรอยตามนั้น จากการสอบถามลูกน้องยืนยันว่าไม่ได้กระทำการลักษณะดังกล่าว และหลังจากเป็นกระแสก็ได้ยื่นเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีการไปคุกคาม ได้มาปรึกษาก่อนยื่นจดหมายถึงนายกฯ หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เพิ่งรู้หลังจากที่ยื่นหนังสือไปแล้ว เพราะถ้าทราบก่อนจะไม่ให้ยื่นเด็ดขาด เพราะมองว่าไม่จำเป็น
ส่วนกรณี ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ถูก 1 ในชุดพนักงานสอบสวนของ สอท. โทรศัพท์เข้ามาเพื่อให้กลับคำให้การ ทำให้ตนและพวกเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่ามีการติดต่อมาจริง เป็นพนักงานสอบสวน ยศนายพัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ลูกน้องของตนจะยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตรวจสอบ ว่าพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวเข้าข่ายผิด ม.157 หรือไม่