พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เผยคำสารภาพ "ช่างกิต" ที่ลงมือฆ่า "ใหม่" เพราะคุยกันเรื่องที่อยากจะตกลงด้วย แต่ได้รับคำตอบที่ไม่พอใจ ทำให้ลั่นไกยิงในรถ ก่อนลากศพทิ้งข้างทาง ช่วงบ่ายประสานชุดประดาน้ำงมหาปืนของกลาง
ตำรวจยังเร่งเดินหน้าสอบสวนคดีอุ้มฆ่า นายธนาสันต์ หรือ ใหม่ เตอั้น อายุ 33 ปี หนุ่มโรงงาน ถูกจับมัดมือมัดเท้าจ่อยิงทิ้งศพริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หลังจับกุมผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย นายกิตติโชติ หรือช่างกิต แพไพรมูล อายุ 37 ปี คู่กิ๊กของ น.ส.วรรณพร หรือพร หลักแหลม อายุ 33 ปี ภรรยาผู้ตาย นายนันทพัทธ์ หรือโอ๊ต พุทธ อายุ 23 ปี หลานช่างกิต นายปานเทพ หรือแท็ป บุหรี่ทอง อายุ 29 ปี น.ส.อภิสรา หรือนิว ผ่องจำปา อายุ 22 ปี แฟนสาวของนายแท็ป และนายสุขสงกรานต์ หรือกาน จันแดง อายุ 24 ปี ทั้งหมดถูกแจ้งหลายข้อหาหนักนำตัวไปฝากขังต่อศาลถูกส่งเข้าเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ต่อมาผู้ต้องหาได้ประกันตัวแล้ว 3 คน คือ นายปานเทพ น.ส.อภิสรา และนายนันทพัทธ์ ขณะที่พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำช่างกิตในเรือนจำเพื่อไขความกระจ่างของคดีก่อนจะสรุปสำนวนให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เพื่อสอบถามความคืบหน้าหลังจากมีการเข้าไปสอบปากคำช่างกิตเมื่อวานนี้ โดย เผยเหตุการณ์ว่า ที่ช่างกิตลงมือฆ่านายใหม่ที่ให้การรับสารภาพกับพนักงานสอบสวน ว่า ระหว่างที่ควบคุมตัวนายใหม่ออกมาด้วยกันโดยลำพัง ทั้งคู่ก็มีบทสนทนา มีข้อความที่ท้าทายแล้วก็กินใจ ทำให้ช่างกิตบันดาลโทสะ ก่อนจะใช้ปืนที่เตรียมไว้แล้วลงมือสังหารทันที โดยจอดรถแล้วยิงนายใหม่ทันที ก่อนจะขับรถชิดซ้าย แล้วก็นำศพนายใหม่ทิ้งบริเวณที่มีผู้พบศพ
...
สำหรับความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งกล้องวงจรปิด ทั้งข้อมูลโทรศัพท์ ข้อมูลการสอบสวนปากคำพยาน ทำให้ตำรวจเห็นพฤติการณ์ในการก่อเหตุ คดีนี้มีผู้ก่อเหตุทั้งหมดรวม 5 คน ทางตำรวจทราบตั้งแต่วันที่เขาไปดูลาดเลากัน ทำให้ทราบพฤติการณ์ของผู้ตาย หลังจากนั้นก็มีการเชิญชวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมาร่วมในการก่อเหตุ หลังจากนั้นเมื่อนายใหม่ออกจากบ้าน มารถเก๋งคันสีแดงที่ทางตำรวจยึดเอาไว้ ก็ขับติดตามมาแล้วก็ปาดหน้ารถจักรยานยนต์นายใหม่ แล้วก็นำตัวนายใหม่ขึ้นมาบนรถ
หลังจากนั้นระหว่างที่อยู่บนรถ ก็มีความพยายามที่จะพันธนาการนายใหม่ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ก่อนจะนำตัวไปที่บ้านช่างกิต แล้วทำการมือมัดมัดเท้านายใหม่จนสำเร็จ หลังจากนั้นช่างกิตก็นำตัวนายใหม่ออกจากบ้านไปที่เกิดเหตุ ไปก่อเหตุฆาตกรรมตามที่ปรากฏเป็นข่าว
สำหรับ น.ส.วรรณพร หรือ พร หลักแหลม อายุ 33 ปี ภรรยาผู้ตายนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง น.ส.วรรณพร กับช่างกิต ผู้ต้องหา การปกปิดการคบหากันเป็นสาเหตุสำคัญของเรื่องนี้ แต่ว่าในทางการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เรายังไม่ปรากฏว่า น.ส.วรรณพร ได้ร่วมในการวางแผน ในการช่วยเหลือ แล้วก็ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังรอผลการตรวจพิสูจน์โทรศัพท์ของ น.ส.วรรณพร ซึ่งได้แสดงความบริสุทธิ์ใจไว้แล้ว ซึ่งผลตรวจออกมาหากมีข้อมูลที่เชื่อมโยง น.ส.วรรณพร ก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย
"การสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ในภาพรวมของคดีเราเห็นทั้งหมด ทางตำรวจก็รอพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อให้คดีสมบูรณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสอบสวนปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในส่วนของคดี แล้วก็พยานแวดล้อม รอผลการตรวจทางเทคนิค แล้วก็ทางเทคโนโลยี ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ แล้วก็ผลการตรวจพิสูจน์อื่นๆ เพิ่มเติม จึงจะทำให้คดีนี้ก็สามารถที่จะนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้สมบูรณ์"
อีกส่วนหนึ่งที่ทางตำรวจพยายามที่จะตามหาก็คือ ในเรื่องของโทรศัพท์ของผู้ตาย ทางตำรวจยังพยายามค้นหาอยู่ แล้วก็รอผลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิสูจน์ความจริงในส่วนนี้
อีกส่วนหนึ่งที่ตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ ก็คือในเรื่องของปืน ก็มีการประสานชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมเครื่องมือที่จะสแกนหาวัตถุไปตรวจ ซึ่งจะทำให้คดีนี้สมบูรณ์ เห็นภาพรวมทั้งหมดชัดเจนขึ้น
ในเรื่องของคนที่ร่วมกันมัดมือมัดเท้า จากการสอบสวนก็ทราบชัดเจนแล้วว่า สองในสี่ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ก็เป็นผู้ลงมือผูกมือและเท้านายใหม่ ก่อนที่ช่างกิตจะนำตัวไป และเกิดเหตุฆาตกรรม ในเบื้องต้นทั้งสองคนรับสารภาพ
ส่วนการประกันตัวของช่างกิต ก็ขึ้นอยู่กับทางดุลพินิจของศาล ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกัน เพราะเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ แล้วก็มีความโหดร้ายทารุณ
ซึ่งช่วงเวลา 13.30 น. ทางตำรวจได้ประสานชุดประดาน้ำลงพื้นที่คลองส่งน้ำ เพื่องมหาปืนของกลางอีกครั้ง