เซเลบสาวคนดัง อดีตนิสิต จุฬาฯ แจ้งจับไฮโซหนุ่มคนดังอนาจารทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังเจอกันในผับย่านทองหล่อแล้วถูกชวนไปนั่งที่โต๊ะ ผู้เสียหายยอมไปนั่งเพราะเห็นเป็นเพื่อนแฟนหนุ่มนายตำรวจคนดัง สุดท้ายถูกจับกรอกเหล้าจนเมา พอขอตัวกลับทำทีขับรถจะไปส่งบ้าน แต่กลับเลี้ยวพาเข้าคฤหาสน์ย่าน ประเวศ เหยื่อสาวสู้สุดฤทธิ์ทั้งที่เมาอ้วกแตกอ้วกแตน วิ่งออกมาให้คนช่วย แต่ถูกลากกลับเข้าไปใหม่จนเนื้อตัวถลอกปอกเปิก สบโอกาสวิ่งหนีออกมาอีกครั้ง มีหนุ่มสาววัยรุ่นขี่รถ จยย.มาพอดีเลยพาหลบหนีมา แจ้งความ ด้านตำรวจออกหมายเรียกไฮโซหนุ่มมารับทราบข้อหาใน 7 วัน ยันทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
เหตุหนุ่มไฮโซหื่นลากเซเลบสาวเมาเข้าคฤหาสน์จะทำมิดีมิร้ายครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 12 ก.พ. พ.ต.ต.ศิริพงษ์ วรรณสัมผัส สว. (สอบสวน) สน.ประเวศ เปิดเผยถึงกรณีมีเซเลบสาว อดีตนิสิตสาวจุฬาฯ แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี นายวิน (นามสมมติ) อายุ 27 ปี หนุ่มไฮโซนามสกุลดัง ล่อลวงกระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย เหตุเกิด ที่บ้านพักซอยพรีเมียร์ 1 แยก 4 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. เมื่อกลางดึกวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า สอบสวนผู้เสียหายและพยานเสร็จเรียบร้อย ได้ผล ตรวจร่างกายจาก รพ.จุฬาฯแล้ว พร้อมกับตรวจที่เกิดเหตุรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อเตรียมเรียกผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดี แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน ให้มาพบรอรวบรวมทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน
คดีสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 4 ก.พ. น.ส.ป๊อง (นามสมมติ) อายุ 25 ปี เซเลบสาว อดีตนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าแจ้งความว่า เมื่อช่วงเวลา 23.00 น. วันที่ 3 ก.พ. นั่งแท็กซี่ไปกับเพื่อนสาวเพื่อเที่ยวผับแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ เมื่อไป ถึงไม่มีโต๊ะไปยืนกับเพื่อนที่บาร์เหล้า มีชายรู้จักกันชื่อนายวินเป็นลูกไฮโซนามสกุลดัง เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเป็นเพื่อนแฟนตนซึ่งเป็นตำรวจเหมือนกันเข้ามา ทักและเชิญตนกับเพื่อนไปนั่งโต๊ะของเขาที่มีเพื่อนชายหญิง 5-6 นั่งดื่มกินกันก่อนแล้ว
...
คำให้การ น.ส.ป๊องระบุต่อว่า นายวินให้ดื่มเหล้า เตกีล่าจากขวดโดยจับกรอกปาก 5-6 ครั้ง จนมึนเมาได้โทร.เรียกแกร็บจะนั่งรถไปหาแฟนหนุ่มที่ผับอีกแห่งใกล้ๆกัน แต่นายวินไม่ให้ไปให้ดื่มต่อ แล้วเอาโทรศัพท์ตนไปเก็บไว้ สุดท้ายตนบอกว่าเมาแล้วจะกลับบ้านและเดินออกมาหน้าร้าน นายวินเดินตามออกมาพร้อมโทรศัพท์บอกว่าถ้าจะกลับบ้านจะไปส่งจึงยอมนั่งรถยนต์ไปด้วยก่อนหลับไปด้วยความเมา รู้สึกตัวอีกทีพบว่านายวินขับรถมาจอดในบ้านเหมือนคฤหาสน์ย่านประเวศ ตนตกใจไม่ลงจากรถแต่นายวินคะยั้นคะยอให้ลงจากรถเข้าบ้าน เปิดประตูรถดึงมือตนออกมา ล้มลงข้างรถก่อนที่จะอาเจียนออกมา นายวินบอกให้ไปเข้าห้องน้ำล้างปากแต่ตนไม่อยากเข้าอยากจะกลับบ้าน แต่นายวินอ้อนวอนและดึงเข้าไปบ้านพาไปที่ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว
น.ส.ป๊องให้การต่อว่า เมื่อเข้าไปในห้องน้ำออกมาพบว่านายวินถอดกางเกงขายาว นุ่งกางเกงบ๊อกเซอร์แต่ยังใส่เสื้อ นายวินเข้ามากอดมีลักษณะจะทำมิดีมิร้าย ตนตกใจอ้อนวอนขอไปสูดอากาศนอกบ้าน สะพายกระเป๋าออกไปด้วย โดยนายวินเดินตามออกมาแต่ยังไม่คืนโทรศัพท์ เมื่อนายวินเผลอประตูรั้วบ้านเปิดแง้มไว้ จึงวิ่งหนีออกจากบ้านไกลเกือบร้อยเมตรและร้องขอความช่วยเหลือ แต่นายวินวิ่งตามมาทันจับตนลากไปกับถนนมาที่ถนนหน้าบ้านจนฝ่ามือและหัวเข่าทั้ง 2 ข้างถลอกปอกเปิกบาดเจ็บเป็นแผล เมื่อมีจังหวะได้วิ่งหนีอีกมาทางเดิมเห็นป้อมยามหมู่บ้านขอความช่วยเหลือแต่ รปภ.ไม่ยอมช่วย ขณะเดียวกันมีหนุ่มสาวคู่หนึ่งขี่ จยย.ออกมาจากซอย จึงขอความช่วยเหลือพาขึ้น ซ้อนท้าย นายวินพยายามดึงตนลงจากรถ แต่คนขี่ จยย.เร่งเครื่องรอดพ้น ก่อนเข้าแจ้งความและไปตรวจร่างกายที่ รพ.จุฬาฯ กระทั่งวันที่ 6 ก.พ. พ.ต.ต.ศิริพงษ์ให้ตนมารับโทรศัพท์คืน และวันที่ 8 ก.พ. สารวัตรเจ้าของคดีเรียกมาสอบสวนเพิ่มเติม
“แฟนตนมียศร้อยตำรวจโทสังกัดกองสืบ (บก.สส.บช.น.) รู้จักกันมา 5-6 ปี ส่วนนายวินเป็นตำรวจเหมือนกันไม่รู้อยู่ที่ไหน มีข่าวว่าลาออกจากตำรวจเมื่อกลางปีที่แล้ว ตนรู้จักแต่ไม่สนิท ขณะเกิดเหตุตอนอยู่ในห้องนอนบ้านนายวิน รู้สึกกลัวมากเพราะน่าจะมีปืนจึงต้องคอยตามและรอจังหวะหลบหนี ได้กลับไปทบทวนตัวเองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่าไม่อยากให้มา เกิดซ้ำกับใครอีก ต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะ เชื่อมั่นในกระบวนการของกฎหมาย” น.ส.ป๊องกล่าว
ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่ สน.ประเวศ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขาฯ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อม น.ส.ป๊อง ผู้เสียหายมาติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดย น.ส.สุชาดาว่า วันนี้ผู้เสียหายได้นำเอกสารการตรวจร่างกายจาก แพทย์มามอบให้ตำรวจเพิ่มเติม บาดแผลต่างๆ
ตามตัวนั้นเกิดจากการพยายามวิ่งหนีเพราะผู้เสียหายถูกฉุดกระชาก ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุนั้น เป็นเพื่อนในวงสังคมเดียวกัน ยืนยันว่าการแจ้งความนี้ ไม่ใช่การแบล็กเมล์ เพราะได้แจ้ง ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วต้องการดูท่าทีของผู้ก่อเหตุ แต่ไม่มีท่าทีจะสำนึกผิดหรือแสดงความขอโทษกับการกระทำ
ขณะที่นายเอกภพกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีความรู้พอสมควรได้ประสาน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ส่งเรื่องให้ ผบ.ตร. เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากครอบครัวผู้ก่อเหตุเป็นคนใหญ่โต แต่จะเป็นใครนั้นไม่สำคัญ อย่าคิดว่าร่ำรวยใหญ่โตแล้วจะไม่ถูกดำเนิน คดี ทางที่ดีควรออกมาขอโทษด้วย เพราะครอบครัวผู้เสียหายก็มีฐานะและไม่ได้เรียกร้องเงิน
พ.ต.ท.พีรวัฒน์ สุขรมย์ รอง ผกก.(สอบสวน) ปฏิบัติราชการแทน ผกก.สน.ประเวศ เผยว่า ได้ออกหมายเรียกให้ผู้ก่อเหตุเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วกำหนดระยะเวลาภายใน 7 วัน สำหรับข้อหาที่จะดำเนินคดีประกอบไปด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ กักขังหน่วงเหนี่ยว และกระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย คดีนี้ไม่สลับซับซ้อนได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเกือบครบถ้วน เหลือเพียงปากเดียวคือฝั่งผู้ให้การช่วยเหลือผู้เสียหายในการหลบหนี อาจจะต้องสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพเนื่องจากเป็นเยาวชน พนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ไม่มีผู้ใหญ่ใดๆมากดดันพร้อมให้ความยุติธรรมแก่ผู้เสียหาย คดีนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลและ บก.น.4 ได้กำชับมาแล้วว่าให้ทำคดีอย่างเต็มที่
...
วันเดียวกัน นายอภิชัย เตชะอุบล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง ขอตรวจสอบทุกอย่างให้ชัดเจนก่อน ยืนยันว่าไม่มีอะไร ลูกชายไม่ได้มีการทำร้าย พวกนี้เป็นแก๊งทำลายชื่อเสียง เรารู้ดี เรามีพยานหลักฐานอยู่แล้ว มั่นใจในพยานหลักฐาน ขณะนี้ กำลังให้ทนายรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกลับ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่