จับตา 12 ก.พ.นี้ "รองเต่า" เรียกผู้เกี่ยวข้องคดีศรีสุวรรณตบทรัพย์ นำข้อมูลการทุจริตมาให้ ยันตำรวจทําตามหลักฐาน ไม่เกี่ยวข้องพรรคการเมือง ด้าน "บิ๊กก้อง" ยืนยันชายฉกรรจ์ 4 คน อุ้มรีดเงินย่านสายไหม ไม่ใช่ ตร.กองปราบฯ ยํ้าสืบสวนดูสํานวนเอง ยันชัด! ได้ตัวเร็วๆ นี้
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 67 ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวว่า ในวันที่ 12 ก.พ.นี้พนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับสำนักนายกรัฐมตรีมาให้ข้อมูลจำนวนหลายคน และบุคคลที่เป็นข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ อีก 2 คน ซึ่งเป็นคนที่นำข้อมูลมาให้กับคนกลุ่มนี้ จะเดินทางเข้ามาพบในวันจันทร์เช่นเดียวกัน แต่จะเป็นลักษณะการพูดคุย ยังไม่ได้เป็นการสอบปากคำแต่อย่างใด
ส่วนในวันที่ 15 ก.พ.นี้ คนใกล้ชิดของ นายศรีสุวรรณ ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา รวมถึง นายวีระ ก็จะเดินทางเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลด้วยเช่นกัน นอกจากนี้พบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มของ นายศรีสุวรรณ ตบทรัพย์ มีความจำนงจะทยอยเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วย
สําหรับเส้นทางการเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ยืนยันว่าเส้นทางการเงินในวงนี้ชัดเจนถึงทุกคน รวมถึงหลักฐานอื่นๆ โดยที่ประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจะไล่ไปดูครบทุกวง แต่สิ่งที่สำคัญคือผู้เสียหายจะให้การหรือไม่ ถือเป็นเรื่องหนักใจของชุดสืบสวน และข้อมูลเบื้องต้นผู้ต้องหากลุ่มนี้ทำหลายเคส จึงอยากได้ข้อมูลกับทุกเคสเพราะจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพื่อใช้ในการดำเนินคดีเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามการทำคดีนี้มีผลกระทบเพราะมีการพูดไปถึงการทำลายพรรคการเมือง แต่ตนเองขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำไปตามพยานหลักฐาน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น และข้อกฎหมายบางอย่างที่มีการพูดถึง มองว่าคนที่พูดอาจจะให้ข้อมูลยังไม่เข้าใจบางเรื่อง เพราะสิ่งที่ตำรวจดำเนินการตรงประเด็น และตรงกับข้อกฎหมาย ซึ่งมีการศึกษากันมาเพียงพอแล้วทุกอย่างมีเหตุมีผล เพราะผู้ที่ให้ข้อมูลเรื่องต่างๆ ตอนนี้ดูแล้วยังไม่เป็นข้อเท็จจริง
...
"ส่วนการสรุปสำนวนคดีจะรีบดำเนินการในวงของอธิบดีกรมการข้าวให้คดีเรียบร้อย และเป็นแนวทางในการสืบสวนวงอื่นๆ ต่อ ซึ่งจะใช้คดีต่างๆ มาเป็นพยานแวดล้อมเพื่อให้สำนวนแน่นหนาขึ้น รวมถึงจะขยายวงที่กลุ่มนี้ไปกระทำความผิดให้ครบทุกวง" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจกองบังคับการปราบปราม อุ้มรีดเงินผู้เสียหายจํานวน 1 แสนบาท แถวย่านสายไหม ว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เริ่มดําเนินการตรวจสอบแล้วตั้งแต่เมื่อวานหลังเกิดเรื่อง ข้อมูลเบื้องต้นเชื่อว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตํารวจจริง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ มากไปกว่านี้ได้ แม้ว่าเบื้องต้นเชื่อว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตํารวจ แต่หากใช่ก็จะดําเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นความผิดอาญาชัดเจน และเชื่อว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้อย่างแน่นอน โดยคดีนี้ทางตํารวจสอบสวนกลางจะลงไปสืบสวนเอง ส่วนสํานวนทางคดีอจะประสานไปยัง สน.สายไหม ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อมูลที่สําคัญมาแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้
"ส่วนการตรวจสอบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจจริงหรือไม่ ให้ขอดูบัตรประจําตัว หรือหากยังไม่มั่นใจสามารถโทรไปยังต้นสังกัดของตํารวจนายนั้นๆ ได้ เพื่อป้องกันการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่" พล.ต.ท.จิรภพ กล่าว.