ญาติ "โอ๊ต-กาน" เตรียมยื่นประกันตัววันจันทร์นี้ โดย "ผู้การแปดริ้ว" พร้อมพนักงานสอบสวน จ่อจะเข้าสอบ "ช่างกิต" อีกครั้ง เพื่อสอบถามเรื่องปืนและมือถือ และย้ำ "น้องพร" ไม่พบเรื่องเกี่ยวโยงฆาตกรรมสามี ยันคดีนี้จะสรุปได้ในสัปดาห์นี้แน่นอน


จากเหตุการณ์ฆาตกรรมนายใหม่ นายธนาสันต์ เตอั้น อายุ 33 ปี หนุ่มโรงงานมัดมือมัดเท้าแล้วถูกยิง นำมาทิ้งบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ กม.41+100 หมู่ 10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จนนำไปสู่การจับกุมช่างกิต บางบ่อ หรือนายกิตติโชติ แพไพรมูล อายุ 37 ปี พร้อมพวก รวม 5 คน ก่อนจะถูกคุมตัวนำมาฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งญาติๆ ของผู้ร่วมก่อเหตุได้พยายามร้องขอประกันตัว ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 4 ออกมาสู้คดี จนมีการยื่นขอประกันมาแล้วถึง 2 คน จน ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ให้ประกันตัว นายปานเทพ บุหรี่ทอง (แท็ป) อายุ 29 ปี น.ส.อภิสรา ผ่องจำปา (นิว) อายุ 22 ปี ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ออกมาสู้คดี โดยศาลตีวงเงินประกันคนละ 800,000 บาท โดยทั้งสองคนต้องติดกำไล EM ที่ข้อเท้าทั้งคู่  


โดยวันจันทร์ที่ 12 ก.พ. 67 ทางญาติของนายสุขสงกรานต์ จันแดง (กาน) อายุ 24 ปี และ นายนันทพัทธ์ พุทธ (โอ๊ต) อายุ 23 ปี จะเข้ายื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวทั้งสองคนออกมาจากเรือนจำเพื่อมาสู้คดีเช่นเดียวกัน โดยทาง พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา จะเดินทางเข้าสอบปากคำพร้อม ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ลิ้นทอง รองสว.สอบสวน สภ.บางปะกง ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี  เพื่อสอบปากคำช่างกิตในเรือนจำ ในเรื่องอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ มือถือของผู้ตายถูกนำไปไว้ที่ไหน เหตุจูงใจที่แท้จริง และยังต้องสอบเรื่องของ น.ส.วรรณพร เพิ่มเติมว่าเกี่ยวข้องในเรื่องอะไร และวิธีการลงมือยิงนายใหม่ 

...


ล่าสุด พล.ต.ต.นเรวิช เผยว่า จากหลักฐาน และผลตรวจวิเคราะห์ข้อมูลหลายอย่าง รวมทั้งพยานบุคคล และสอบสวน น.ส.วรรณพร เพิ่มเติม เริ่มทำให้พบว่า น.ส.วรรณพร หลักแหลม อายุ 31 ปี นั้นไม่รู้เห็นเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมนายใหม่ สามีตนเองแน่นอน ส่วนพยานและหลักฐานใหม่ที่ได้มาก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ระบุตัวละครที่ก่อเหตุได้ชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าปืนที่ก่อเหตุและมือถือไม่ได้มีการนำไปโยนทิ้งแต่อย่างใด โดยคดีนี้น่าจะสรุปได้ในอาทิตย์นี้แน่นอน  


ส่วนเรื่องของน.ส.วรรณพร ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางคดีฆาตกรรมสามีตนเอง ก็ถูกสังคมโจมตีเรื่องศีลธรรมจนช่วงที่เดินทางกลับบ้านไปครั้งแรกนั้นจะฆ่าตัวตายเพราะเครียด แต่มีลูกเดินมาคุยและดึงสติให้อยู่สู้ต่อไป แต่ถ้าน.ส.วรรณพรจบชีวิตตัวเองที่ต่างจังหวัด สังคมก็จะมองว่าฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด ทั้งๆ ที่การสอบสวนสืบสวนของคดียังไม่จบเลย แต่ถูกสังคมตีความไปก่อนว่า น.ส.วรรณพรเป็นคนบงการ วางแผน รู้เห็นกับช่างกิต หรือเหตุผลต่างๆ นานา น.ส.วรรณพรก็ไม่คิดว่าจะถูกนักข่าวขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวจนตนเองไม่มีที่ยืนในสังคม ครอบครัวอับอายเพราะบางเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับคดีเลย ส่วนทางคดีนั้นผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุนั้นหากมีการประกันตัวออกมาสู้คดีก็ต้องเรียกตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมทุกคนเกี่ยวกับเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุเพื่อความชัดเจน ซึ่งข้อหาอาจจะมีบางคนถูกเพิ่มข้อหาตามพยานหลักฐานที่ได้มา ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการผัดฟ้องและฝากขัง ร้องขอให้ศาลขังตัวผู้ต้องหาไว้ในระยะ 84 วัน จำนวน 7 ผัด ระหว่างที่ทำการรวบรวมพยานหลักฐานในคดี ก่อนทำการสรุปความเห็นในสำนวนยื่นเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อให้ทันการผัดฟ้องผัดแรก ส่งร่างคำฟ้องให้ศาลพิจารณาต่อไป 

ด้าน พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า อันที่จริงเรื่องคดีดังกล่าวได้จบลงแล้ว คนร้ายได้ถูกจับกุมตัวแล้ว ส่วนจะมีตัวละครอื่นอีกหรือไม่อยู่ที่หลักฐาน พยานวัตถุและการตรวจดีเอ็นเอ ส่วนจะเกี่ยวพันถึงใคร หรือมีคนร้ายคนอื่นก็อยู่ที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการ จะเปิดเผยต่อสาธารณะชนและสื่อมวลชนไม่ได้ ส่วนที่มีข่าวออกไปว่าผลดีเอ็นเอ มีผู้อื่นร่วมด้วยนั้น นักข่าวเขียนกันไปเรื่อย ไม่ใช่ตำรวจสอบสวนที่จะรู้ไปหมดซึ่งหลักฐานในการสอบสวนบางอย่างต้องปิดไว้เป็นความลับของทางราชการเพราะมีผลต่อรูปคดี