ผู้การฯ จังหวัดฉะเชิงเทรา เตรียมเดินทางเข้าไปสอบปากคำ "ช่างกิต" ในเรือนจำ ด้วยตัวเอง เชื่อครั้งนี้ เจ้าตัวพร้อมเปิดใจให้ข้อมูลกับทางตำรวจ ขณะที่ "น้องพร" เข้าให้ปากคำเพิ่มที่ สภ.บางปะกง เมื่อคืนที่ผ่านมา ในส่วนที่ตำรวจยังสงสัยบางประการ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่กองบังคับตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าพบ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีอุ้มฆ่านายธนาสันต์ หรือใหม่ เตอั้น อายุ 33 ปี หนุ่มโรงงานถูกจับมัดมือมัดเท้าจ่อยิงทิ้งศพริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 8 ก.พ. 67 น.ส.วรรณพร หรือพร หลักแหลม อายุ 33 ปี ภรรยาเดินทางมากับครอบครัว เพื่อมาพบพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.บางปะกง ประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดต่อไป โดยทางตำรวจสอบเพิ่มเติมในส่วนที่ตำรวจสงสัยบางประการ
โดย พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เผยว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างให้ทีมวิเคราะห์ข่าว ทางกองบังการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจสอบข้อมูลมือถือของผู้ต้องหาและของน้องพร ซึ่งมีทั้งข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทางคดี แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดที่ว่า น้องพรนั้นจะเชื่อมโยงกับคดีนี้หรือไม่ จึงต้องรอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดอีกครั้ง โดยตอนนี้มีการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปเก็บหลักฐาน และสอบพยานพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มาประกอบกับสำนวนให้แน่นหนามากขึ้น
“ตอนนี้ตำรวจยังไม่หนักใจ เพราะตำรวจทำตามหน้าที่และองค์ประกอบของหลักฐานที่พบทั้งหมด รวมทั้งดูหลักฐานของสื่อมวลชนด้วย ซึ่งบางส่วนก็มีประโยชน์กับทางคดี ซึ่งตำรวจต้องเก็บหลักฐานให้สมบูรณ์เพื่อส่งให้กับศาลและอัยการ”
...
โดยทาง พล.ต.ต.นเรวิช จะเดินทางเข้าไปในเรือนจำ เพื่อสอบปากคำนายกิตติโชติ หรือช่างกิต แพไพรมูล อายุ 37 ปี อีกครั้ง เพราะเชื่อว่าช่างกิต น่าจะพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับทางตำรวจ และครั้งนี้ช่างกิตน่าจะเปิดใจกับทางตำรวจทุกเรื่อง เพราะเชื่อว่าช่างกิตน่าจะรู้เรื่องราวของน้องพรบางส่วนแล้ว และจะเร่งเข้าสอบปากคำให้เร็วที่สุด เพื่อมาประกอบกับสำนวนคดีและเพื่อความกระจ่างของคดี และวันนี้ทางญาติผู้ต้องหา 1 ใน 4 คน จะเดินทางมาที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัววันนี้ หลังจากเมื่อวานหลักทรัพย์ที่เตรียมมานั้นไม่พอ