ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดี "ลุงจรูญ" ฟ้อง "ครูปรีชา-ทนาย" ฐานร่วมกันฟ้องเท็จ เป็นวันที่ 20 มีนาคมนี้ ด้านทนายตั้มและลุงจรูญยืนยัน หลังจากนี้ไม่มีการไกล่เกลี่ย ติดใจคำพูดครูปรีชา “มาฟ้องพยานแบบนี้ สังคมจะอยู่ยังไง” ทำลุงจรูญโมโห หลังตัวเองโดนฟ้องเป็น 10 คดี ต้องสู้คดียาวนาน
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดเผยหลังเข้าฟังการตัดสินของศาล ในคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ ยื่นฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ กับพวก ปมหวย 30 ล้าน โดยทนายษิทรา เผยว่า คดีที่ฟ้องร้องไปนั้น คดีแรก ฟ้องทนายของครูปรีชา กับตัวครูปรีชาเอง ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ คดีนี้จริงๆ แล้ว ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ แต่ว่ายังอยู่ในขั้นตอนของการส่งไปให้ท่านอธิบดีฯ ตรวจก่อน ฉะนั้นศาลก็เลยเลื่อนคดีนี้ ซึ่งเป็นคดีหลักในวันนี้ ไปวันที่ 20 มีนาคมนี้
ส่วนคดีที่สอง คือ คดีที่ลุงจรูญ ฟ้องครูปรีชา เจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัช ฐานร่วมกันเบิกความเท็จ คดีนี้ตอนแรกครูปรีชาปฏิเสธ แล้วเปลี่ยนมารับสารภาพ และวันนี้จะมาขอปฏิเสธอีกรอบหนึ่ง แต่ศาลไม่ให้แล้ว เพราะเห็นว่าเป็นการประวิงคดี ศาลจึงให้ครูปรีชาคงรับสารภาพไปแบบนั้น แต่ว่ายังติดในส่วนของเจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัช ที่ยังคงให้การปฏิเสธสู้คดีอยู่ ฉะนั้นศาลก็เลยเลื่อนเบิกคำพิพากษาในคดีที่ครูปรีชารับสารภาพในข้อหาเบิกความเท็จตอนอายัดเงินลุงจรูญ ในคดีแพ่ง ไปสืบพยานในเดือนกรกฎาคม พอสืบพยานของเจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัชเสร็จแล้ว ศาลจะพิพากษาครูปรีชาที่รับสารภาพไปในคราวเดียวกัน
และคดีที่สาม เป็นคดีที่ลุงจรูญ ฟ้องพยานทุกคน รวม 10 คน ในข้อหาเบิกความเท็จ ในคดีที่มีการฟ้องลุงจรูญ ในคดีนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 1 เมษายนนี้
...
ทนายตั้ม กล่าวด้วยว่า ครูปรีชาระบุว่า หากฟ้องพยานแบบนี้ สังคมจะอยู่ยังไง ลุงจรูญก็โมโห ไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ยหรือถอนฟ้องแล้ว ให้นำเงินไปวางที่ศาลดีกว่า
ขณะที่ลุงจรูญ กล่าวว่า ตนเองน่าจะเป็นคนพูดให้ครูปรีชาฟังมากกว่า ว่า การที่มีคนอย่างคุณอยู่ แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร และในเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง วันหน้าก็ไม่ต้องคุยกันดีกว่า ตนไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน จะจบก็ได้ แต่ให้โอกาสแล้ว เขาไม่คว้าไว้ก็พอ ตนเหนื่อยกายเหนื่อยใจแล้ว เพราะรู้มาแต่แรกว่าคดีจะนานแน่ๆ ทั้งนี้หากเรื่องยังไม่จบก็คงไม่ขอซื้อหวยอีก
ด้านนายปรีชา กล่าวว่า เหตุที่คุยกันไม่ลงตัวเพราะความเข้าใจไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน ส่วนประเด็นที่ลุงจรูญโมโหที่ตนบอกนั้น ในเมื่อพยานเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วมาฟ้องแบบนี้ ต่อไปใครจะมาเป็นพยานให้ หากเจอคนฆ่ากันต่อหน้าหรือขโมยขึ้นบ้าน ผู้คนก็คงไม่มาเป็นพยานให้แล้ว ตนเองก็เพียงแค่ยกตัวอย่างเท่านั้น
นอกจากนี้ ปัญหาไม่ได้มีเพียงเรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องความเข้าใจภายใน ไม่ใช่เรื่องภายนอก คนสองคนจะเข้าใจกันได้ต้องเกิดจากความเข้าใจ ดังนั้นก่อนจะชำระ ต้องเคลียร์ใจก่อนถึงจะชำระ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้กลับคำให้การ แต่เพื่อเป็นการยุติคดีด้วยความสมานฉันท์เท่านั้น จึงให้การไปเช่นนั้น และยืนยันว่า คดีนี้แต่แรก ตนแจ้งความว่าลอตเตอรี่หาย ไม่ได้กล่าวโทษใคร เพราะตนเชื่อโดยสุจริตว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของตน แต่กระบวนการได้มาซึ่งข้อมูลนั้นเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนคดีที่กองปราบปรามที่ถูกดำเนินคดีฐานให้การเท็จ มีนัดส่งสำนวนให้อัยการเดือนมีนาคมนี้ ตนเองก็ไม่กังวลและพร้อมเข้าสู่กระบวนการ
ด้าน น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช และนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ในฐานะจำเลยร่วมกับนายปรีชา ใคร่ครวญ ที่ถูก ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ ยื่นฟ้องปมหวย 30 ล้าน ในคดีร่วมกันเบิกความเท็จ
โดยเจ๊พัช รับฟังการตัดสินคดีเสร็จสิ้นก่อน บอกว่า วันนี้ศาลนัดไต่สวนฉุกเฉินคดีที่ตนและเจ๊บ้าบิ่น ร่วมกับครูปรีชา ถูกฟ้องร้องในข้อหาเบิกความเท็จ โดยครูปรีชาไกล่เกลี่ยและจะชดใช้เงิน 2,500,000 บาท แต่ยังไม่ตกลงรายละเอียด จึงขอเลื่อนการจ่ายออกไปก่อน โดยมีเงื่อนไขกำหนดไว้ แต่ครูปรีชาจะเป็นผู้ชี้แจงเอง
“ส่วนตัวถามว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ลอตเตอรี่ก็แพง ได้กำไรแค่ใบละ 10 บาท แต่หากผลสั่งให้ต้องจ่าย ก็ไม่มีเงินจะจ่าย ไม่มีทรัพย์สินให้ไปยึด” เจ๊พัช กล่าว
เจ๊พัช กล่าวอีกว่า ไม่ขอตอบว่า ไปกระทำการใดที่เป็นการเบิกความเท็จ เกรงจะเป็นการก้าวล่วงศาล แต่เรื่องนี้ถือว่ารู้อยู่แก่ใจอยู่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืออะไร.