พบเงินประกันชีวิต “ใหม่” สูงถึง 1.2 ล้าน ผู้รับคือ “น้องพร-แม่” ยังมีเงินช่วยเหลือต่างๆ ทรัพย์สิน รถ บ้านฯ ซึ่งมีชื่อพ่อฝ่ายหญิงเป็นเจ้าของ ทนายความสงสัย เหตุใดหลังสามีเสียชีวิต ภรรยาจึงรีบให้แม่เซ็นมอบให้เป็น ผจก.มรดก ด้านตำรวจยังไม่ปิดสำนวน เตรียมเข้าสอบ ช่างกิต เพิ่มในเรือนจำ

วันที่ 7 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่ายรายงานว่า น.ส.สุดารัตน์ เตอั้น อายุ 29 ปี น้องสาวของ นายธนาสันต์ หรือใหม่ เตอั้น อายุ 33 ปี หนุ่มโรงงานที่ถูก ช่างกิต บางบ่อ อุ้มฆ่าอย่างโหดเหี้ยม นำศพทิ้งริมถนนมอเตอร์เวย์ ท้องที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายศักดิ์โชติ จอนกิ่ง อายุ 31 ปี ญาติผู้น้อง และญาติ เข้าพบ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากแม่ของใหม่ให้มาดูแลเรื่องมรดก พร้อมขอให้ช่วยตรวจสอบทรัพย์สินของพี่ชายว่าส่วนใด น้องพร ภรรยาผู้ตาย ควรได้รับตามสิทธิ์ 


เนื่องจากครอบครัวยังรับไม่ได้ที่ น้องพร ซึ่งเป็นต้นเรื่อง ไปสร้างโลกหลายใบ จน 1 ในจำนวนนี้ก่อเหตุอุ้มฆ่าใหม่ แต่พรกลับมีสิทธิ์ในทรัพย์สินของใหม่ ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรม   


สำหรับทรัพย์สินของใหม่ตอนนี้ ได้แก่ เงินช่วยเหลือค่าทำศพจากบริษัท 15,000 บาท เงินช่วยเหลือตามอายุงาน 1.6 แสนบาท กองทุนฌาปนกิจ 66,350 บาท เงินเดือน ก.พ.67/โบนัสครึ่งปีแรก 2567 ในส่วนนี้ แม่ และ "พร" ได้แบ่งคนละครึ่ง


ยังมี สินสมรส อาทิ รถกระบะ, มอเตอร์ไซค์, เงินฝาก, บ้านพักอาศัย แต่กลับซื้อในชื่อพ่อของพร และเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่ง "พร" ได้เต็มจำนวน    


น้องสาวของใหม่ เผยด้วยว่า ยังสงสัยว่าพรรู้เห็นในการเสียชีวิตของพี่ชายหรือไม่ เพราะหลังตรวจสอบทรัพย์สินพบเกือบทุกรายการ พร ได้รับประโยชน์ทั้งที่หากมีสำนึกควรปฏิเสธไม่รับ เพราะถือว่าเป็นต้นเรื่อง 

...


ด้าน ทนายไพศาล ฝากถึงเจ้าหน้าที่ชุดทำคดีต้องสอบเพิ่มในประเด็นการได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินผู้เสียชีวิต ตั้งข้อสังเกตว่า พร รู้ว่า ใหม่ ทำประกัน 1.2 ล้านบาท ตั้งแต่เดือน ธ.ค.66 และหลังเกิดเหตุได้เร่งรีบให้แม่ของใหม่เซ็นชื่อให้ พร เป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งในภาวะปกติไม่มีใครทำแบบนี้ จึงยังไม่สิ้นสงสัยว่า พร รู้เห็นในการกระทำของ กิต หรือไม่


“พรนี่รู้จากเอชอาร์ของโรงงานแล้วว่าใหม่ทำประกันไว้ให้ แล้วผู้รับผลประโยชน์คือ แม่ กับ พร แล้วพรได้มีการมาพูดคุยกับแม่แล้วว่าจะได้มรดก ซึ่งข้อสันนิษฐานก็คือ แสดงว่าพรรู้แล้วว่ามีประกัน 1.2 ล้าน พอทราบว่าสามีเสียชีวิตเลยมาบอกแม่ว่าให้เซ็นหน่อย "ให้พรเป็นผู้จัดการมรดก" จะได้มาแบ่งให้ ส่วนนี้ในทางกฎหมายสันนิษฐานว่ามันเป็นแรงจูงใจให้เกิดเหตุหรือไม่อย่างไร ก็คุณรู้มีว่าประกันที่ทำก่อนตายน่ะ แล้วก็มาขอจัดการมรดก” ทนายไพศาล กล่าว 


ล่าสุดมีรายงานว่าคดีนี้ตำรวจยังไม่สรุปสำนวน พร้อมจะออกหมายเรียกบุคคลสอบเพิ่มอีก 2-3 ราย ในจำนวนนี้คาดว่าเป็นบุคคลที่รู้จักกับ พร และกิต ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนเตรียมเข้าสอบ ช่างกิต เพิ่มในเรือนจำใน 1-2 วันนี้ เพื่อไขปมโทรศัพท์มือถือ และปืน ว่าอยู่ที่ใคร หรือทิ้งที่ใดกันแน่.