ชุดสืบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี คุมตัว "อาร์ม ปืนโหด" มือยิงหลานกำนันดังดับคาถนน มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม หลังหนีข้ามจังหวัดไปมอบตัวกับตำรวจ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี พร้อมด้วย ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี ควบคุมตัว นายภีมวัจน์ หรืออาร์ม เมฆาลัย อายุ 29 ปี ชาว ต.เวียงคอย อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียิงนายสุทัศน์ ลบโฉม หลานกำนัน ตำบลหัวสะพานเสียชีวิต มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองเพชรบุรี หลังนายภีมวัจน์ หรืออาร์ม ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี เมื่อกลางดึกของวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายภีมวัจน์ หรืออาร์ม เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนไปในทางหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังนายภีมวัจน์ ลงมือก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ไล่ชนและใช้อาวุธปืนไล่ยิง นายสุทัศน์ ลบโฉม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 3 ต.หัวสะพาน อ.เมืองเพชรบุรี พ่อค้าขับรถเร่ขายของตามหมู่บ้าน ด้วยปืนขนาด 9 มม.จนเสียชีวิต ริมถนน เพชรเกษมขาขึ้น (กทม.) หมู่ 10 ต.หัวสะพาน อ.เมืองเพชรบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี และสืบสวน ภ.จว.เพชรบุรี ระดมติดตาม และกดดัน นายภีมวัจน์ อย่างต่อเนื่อง
ส่วนนายธง ลบโฉม บิดานายสุทัศน์ ผู้เสียชีวิต น.ส.ชรินทิพย์ ลบโฉม พี่สาวผู้เสียชีวิต น.ส.สุนิสา โตจิ๋ว ภรรยา และนายอาคม ทันชนะโฉม กำนันตำบลหัวสะพาน อาของผู้เสียชีวิต ไม่ทำพิธีฌาปนกิจศพนายสุทัศน์ และนำร่างมาเก็บรักษาที่วัดถ้ำแก้ว อ.เมืองเพชรบุรี โดยให้เหตุผล จะรอจนกว่าจะจับกุมนายภีมวัจน์มาดำเนินคดี ให้ได้ก่อน
...
ด้าน พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.เมืองเพชรบุรี และชุดสืบสวน ภ.จว.เพชรบุรี ได้ดำเนินการตามยุทธวิธีกดดัน เพื่อให้คนร้ายเข้ามอบตัว และสืบสวนสอบสวนติดตาม เพื่อจะจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง เมื่อคืนที่ผ่านมา นายภีมวัจน์ ผู้ต้องหาได้ติดต่อเข้ามอบตัวที่ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนทั้ง ภ.จว.เพชรบุรี และสืบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี ได้ร่วมกันควบคุมตัวมาที่ สภ.เมืองเพชรบุรี
และในช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.ต.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี จะเดินทางมาสอบสวนด้วยตนเอง