กาฬสินธุ์-ผู้รับเหมาสุดทน เบิกเงินงวดงานไม่ได้หลายปี แจ้งความดำเนินคดี “อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ” ไม่อนุมัติจ่ายเงิน ทั้งที่คณะกรรมการตรวจงานผ่านแล้ว ซ้ำร้ายยังมีการแก้ไขหักค่างานโดยไม่อิงสัญญาหลักและตามหลักวิศวกรรม มูลค่าความเสียหาย 17 ล้านบาท ขณะที่ นายก อบต.บุ่งคล้า วิงวอนให้รัฐบาลใหม่เข้าแก้ไขปัญหา เพราะประชาชนสูญเสียโอกาสทางการเกษตรมานานกว่า 6 ปี ด้าน ป.ป.ช.ชี้พฤติการณ์ 157

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 นายสุมาสิทธิ์ ศรีลำพัง เลขที่ 55 ม.10 ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะเครือข่ายคุณธรรมอีสาน ได้รับการร้องทุกข์จาก นางสาวเอ (นามสมมติ) และนายบี (นามสมมติ) หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครพนม มีความเดือดร้อนจากโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงขามเปี้ย ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เบิกเงินงวดงานไม่ได้ จึงประสานแนะนำเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ 

โดยมี ร.ต.อ.ธีรพัฒน์ เทียมเมืองแพน รอง สว.สอบสวน สภ.บุ่งคล้า รับเรื่องร้องทุกข์ พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กับพวก ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่เบิกจ่ายเงินค่าจ้าง โดยกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมส่งเรื่องให้ ป.ช.ช.ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย

หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการฯ ได้ทำสัญญาจ้างกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงขามเปี้ย อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ตามเลขที่สัญญา ทส.0601/37/2559 ลงวันที่ 20 ม.ค.2559 จำนวน 53,000,000 บาท

ต่อมาได้จัดทำตามโครงการและได้ส่งมอบงาน เพื่อเบิกจ่ายเงินค่าจ้างตามสัญญาจ้างเป็นเงินงวดแรก จำนวน 7,357873.72 บาท แต่อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำได้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่อนุมัติ การเบิกจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว ทั้งๆ ที่คณะกรรมการตรวจสอบการจ้างได้ตรวจรับงานครบถ้วนถูกต้องตามสัญญาแล้ว 

...

นอกจากนี้ ยังถูกคณะกรรมการตรวจรับงาน ยังได้หักค่าขุดขนและแก้แบบโดยไม่อิงสัญญาหลักและตามหลักวิศวกรรม คือ หักค่างานเดิมออกไปในสัญญาหลักและในใบปริมาณงานและราคาที่มีตั้งแต่แรกใน TOR ด้วยการข่มขืนใจและปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ตนซึ่งเป็นผู้รับเหมาทราบ โดยที่ผู้รับจ้างแจ้งปัญหาให้ผู้ว่าจ้างแล้ว ทำให้ตนสูญเงินไปกว่า 10 ล้านบาท

ขณะที่ นายนริศ อาจหาญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบุ่งคล้า เปิดเผยว่า ปัญหาความล่าช้าของโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงขามเปี้ย ทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาสทางการเกษตร มานานกว่า 5-6 ปี เกษตรกรจะทำการปลูกข้าวนาปังก็ไม่สามารถทำได้ ในส่วนของ อบต.ก็ยังสูญเสียโอกาสพัฒนาต่อยอดจากโครงการให้กับท้องถิ่นอีกด้วย โดย หากโครงการดังกล่าวดำเนินการ จะเป็นการเพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตรได้มากขึ้นกว่า 3,000,000 ลูกบาศก์เมตร ผลประโยชน์ก็จะตกเป็นของประชาชนทั้ง 3 ตำบล  

ที่ผ่านมาเคยเอาเรื่องนี้เข้าในที่ประชุมคณะกรรมการน้ำแห่งชาติ ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ในสัดส่วนองค์กรผู้ใช้น้ำเพื่อการเกษตร ประมาณ 2-3 ครั้ง มีการเรียนเชิญกรมทรัพยากรน้ำมาพูดคุยในที่ประชุม แต่ก็จบไปไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จึงอยากจะฝากเรื่องไปถึงรัฐบาลใหม่ เจ้ากระทรวงคนใหม่ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน เพื่อประชาชนในพื้นที่จะได้ไม่ต้องสูญเสียโอกาสอีกต่อไป

ด้าน นายนราวิชญ์ มาตราช หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า ในกรณีที่ผู้รับเหมาได้ส่งมอบงานแล้ว ถือว่าเป็นผู้เสียหายแล้ว พึงประเมินได้ว่าเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นพนักงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่มิชอบ สามารถเข้าร้องเรียนกับ ป.ป.ช.ได้ หรือหาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสวนได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็จะส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาตรวจสอบตามกระบวนการต่อไป.