หนุ่มคลั่งถูกนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่ สภ.มัญจาคีรี ก่อนผูกคอดับคาห้องขัง ขณะที่ญาติโวยตำรวจไม่ใส่ใจดูแล แถมเจอคำพูดทำให้เสียความรู้สึก “ดูมวยอยู่ ไม่มีเวลานั่งเฝ้าใคร” ขณะที่ผู้การขอนแก่น เผยตำรวจทำงานตามหน้าที่ แต่ไม่มีใครเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง และไม่มีใครบกพร่อง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของ นายหม่อง ปันเนา อายุ 42 ปี ที่บ้านเลขที่ 156 ม.5 บ้านหนองโน ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นคนที่ผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในห้องขัง สภ.มัญจาคีรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพ่อแม่และญาติพี่น้องช่วยกันตั้งฌาปนกิจศพผู้ตายในบ้านพัก โดยมี นางสนิท ปันเนา อายุ 72 ปี มารดานั่งอยู่หน้าโลงศพด้วยความเศร้าโศกเสียใจ

นางสนิท ปันเนา อายุ 72 ปี มารดากล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวด้วย ช่วยครอบครัวยายด้วย ฝากลูกไว้กับตำรวจ คิดว่าลูกจะปลอดภัย แต่ลูกกลับผูกคอตาย เพราะตำรวจไม่ใส่ใจดูแล ลูกตายแล้ว แม่จะพึ่งพาใคร

ทางด้าน นางลำไย เคลป อายุ 64 ปี น้าสาวของคนตาย กล่าวว่า เสียความรู้สึกกับตำรวจ สภ.มัญจาคีรี มาก เพราะถ้าตำรวจใส่ใจดูแลประชาชนมากว่านี้หลานชายคงไม่คิดสั้นผูกคอตายแบบนี้ หลานชายแม้จะเสพยาเสพติด หรือติดสุรา แต่เป็นเสาหลัก ทำมาหากินเลี้ยงพ่อแม่มาตลอด

ก่อนที่หลานชายจะผูกคอตายในห้องขัง สภ.มัญจาคีรี นั้น เนื่องจากในอดีตหลานชายเคยเสพยาเสพติด แต่เลิกเสพยาก็มาติดสุรา เมื่อเมาสุราก็เกิดคลุ้มคลั่ง โวยวาย จึงเกรงว่าจะเกิดการพลาดพลั้งทำร้ายบิดามารดา บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ 

โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา หลานชายก็คลุ้มคลั่งอีก จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.มัญจาคีรี ขอความช่วยเหลือให้พาหลานชายไปสงบสติ อารมณ์ที่ สภ.มัญจาคีรี ซึ่งตำรวจก็มารับไป และพาส่งตรวจร่างกาย รวมทั้งฉีดยาระงับอาการที่ รพ.มัญจาคีรี จากนั้นก็นำส่งคุมขังที่ห้องขัง สภ.มัญจาคีรี  

...

ต่อมาวันที่ 4 ก.พ. เวลา 10.00 น. จึงซื้อข้าว ซื้ออาหาร และนำเสื้อผ้าไปเยี่ยมหลานชาย ก็เห็นว่าอาการปกติ จึงคุยกับหลานชายว่า วันจันทร์ที่ 5 ก.พ. 2567 จะพาไปรักษาที่ รพ.จิตเวช หลานชายก็ยินดีเข้ารับการรักษา และยังบอกหลานชายอีกว่า เวลา 4 โมงเย็นจะมาเยี่ยมอีก หลานชายก็พยักหน้า จากนั้นจึงได้กลับบ้าน

นางลำไย กล่าวอีกว่า พอเวลา 4 โมงเย็น ก็รับโทรศัพท์จากตำรวจ สภ.มัญจาคีรี ว่า นายหม่อง หลานชายผูกคอตายในห้องขังแล้ว จึงรีบบอกพ่อแม่ ญาติพี่น้อง พากันเดินทางไปรับศพหลานที่ สภ.มัญจาคีรี เมื่อไปถึงก็พบว่า สภาพศพหลานชายนั้น สวมเสื้อผ้าปกติ ใช้เชือกรัดกางเกงสีขาวผูกคอตัวเองกับลูกกรงห้องขัง จึงได้ถามหาตำรวจที่เข้าเวรยามหน้าห้องขัง แต่ทราบว่ากลับบ้านไปแล้ว 

จากนั้นก็ขอดูกล้องวงจรปิดของห้องขัง พบว่า ก่อนผูกคอตายนั้น หลานชายเข้าห้องน้ำ หลังออกจากห้องน้ำ ก็ดึงสายรัดหัวกางเกงมาผูกคอตัวเองกับลูกกรงห้องขัง ซึ่งมีตำรวจบางนายบอกว่า หลานชายทำแบบนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว จึงถามกลับไปว่าเมื่อรู้ว่าเขาทำเป็นครั้งที่ 2 ทำไมไม่เดินดู หรือเข้าไปคุยปลอบใจ หรือแจ้งญาติพี่น้อง แต่ตำรวจกลับตอบว่า “ดูมวยอยู่ ไม่มีเวลานั่งเฝ้าใคร”

“ด้วยคำตอบและคำพูดของตำรวจที่พูดแบบนี้ ทำให้เสียความรู้สึก จริงอยู่ตำรวจไม่ได้ฆ่าเขาตาย แต่ถ้าตำรวจใส่ใจดูแลประชาชนบ้านสักนิด คงไม่เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น เพราะการที่ประชาชนเดือดร้อนมาพึ่งตำรวจ ก็เพราะไว้ใจและเชื่อว่าจะปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าตำรวจจะปล่อยละเลยให้ชาวบ้านฆ่าตัวตายในห้องขังแบบนี้ จึงอยากให้ผู้บังคับบัญชาและตำรวจ สภ.มัญจาคีรี มารับผิดชอบจัดงานศพ และเยียวยาพ่อแม่คนตายด้วย”

 

ขณะที่ นายทองสุข ตู้บุดดา อายุ 54 ปี ผญบ.ม.5 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ครอบครัวของ นายหม่อง ได้มาแจ้งว่า ขอให้ช่วยเหลือนำนายหม่องส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากนายหม่องเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายตัวเอง กลัวว่าจะทำร้ายคนในครอบครัวด้วย จึงลงพื้นที่ไปบ้านนายหม่อง พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มัญจาคีรี มาควบคุมตัวนายมองไปสงบสติอารมณ์ ก่อนจะมาทราบข่าวจากตำรวจโทรศัพท์มาแจ้ง ว่านายหม่องลูกบ้านของตนเองผูกคอเสียชีวิตกับลูกกรงในห้องขังดังกล่าว 

“นายหม่องไม่เคยอาละวาดทำร้ายใคร แต่จะมีอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายตัวเองบ่อยๆ ซึ่งในหมู่บ้านนายหม่องไม่สุงสิงกับใคร จนชาวบ้านบางคนคิดว่าไม่ใช่คนในหมู่บ้านด้วยซ้ำไป แต่ในเรื่องอาละวาดทำร้ายคนอื่นนั้น ไม่มีพฤติกรรมดังกล่าวเลยในหมู่บ้าน

ทางด้าน พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า กรณีมีชาวบ้านผูกคอตายในห้องขังของ สภ.มัญจาคีรี นั้น คนตายไม่ใช่ผู้ต้องหา แต่เป็นคนที่มีอาการคลุ้มคลั่ง และญาติขอให้ตำรวจนำตัวมาควบคุมไว้ในห้องขัง เพื่อรอส่งตัวไปรักษาที่ รพ.จิตเวช แต่มาผูกคอตายนั้น 

ในเรื่องนี้ได้รับรายงานแล้ว ผู้ถูกควบคุมผูกคอตายในห้องควบคุม โดยเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2567 เวลา 15.55 น. ร.ต.ต.สุดใจ ผาจันทร์ รอง สว.(ป) สภ.มัญจาคีรี ทำหน้าที่สิบเวรได้มาเปลี่ยนเวร พบ นายหม่อง ปันเนา ผู้ป่วยมีอาการทางจิต ญาติได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาควบคุมไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อที่จะนำตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.จิตเวชขอนแก่น แต่ผูกคอตัวเองตาย 

จากการตรวจสอบกล้องวิดีโอวงจรปิดของ สภ.มัญจาคีรี พบว่า เมื่อเวลา 15.04 น. นายหม่อง ปันเนา อายุ 42 ปี ได้ใช้เชือกกางเกงที่สวมใส่อยู่ผูกคอตนเองกับลูกกรงห้องขัง สภาพศพอยู่ในลักษณะคุกเข่า พนักงานสอบสวนได้ประสานญาติ อัยการ แพทย์ และฝ่ายปกครอง ร่วมทำการชันสูตรพลิกศพ และมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

...

“ในเหตุการณ์นี้ไม่มีใครบกพร่อง ตำรวจก็ทำงานตามหน้าที่ แต่ไม่มีใครที่จะเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง เพราะต้องเข้าห้องน้ำ ไปกินข้าว ซึ่งจะได้กำชับ เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพัก นอกจากดูจากวงจรปิดแล้ว ต้องเพิ่มการเดินตรวจถี่ขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นได้อีก ส่วนการเยียวครอบครัวคนตายนั้น เชื่อว่า ผกก.สภ.มัญจาคีรี จะดูแลครอบครัวคนตายตามความเหมาะสม”