"แก๊งโกฟุก" รวบแล้ว 7 "ดีเอสไอ" เผย 1 รายอยู่ระดับรองจาก "โกฟุก" ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มบัญชีม้า-รับจ่ายเงิน-และไอที เร่งลากคออีก 11 เผยหลังออกหมายจับ "โกฟุก" ไหวตัวชิงหลบหนีออกนอกประเทศ เชื่อมีตัวการใหญ่อยู่เบื้องหลังขบวนการ-เตรียมขยาย

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 67 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าผลการตรวจค้นจับกุม 18 เครือข่ายโกฟุก ว่า ตนได้รับรายงานของคณะพนักงานสอบสวนทราบว่า จับกุมได้แล้ว 7 ราย โดยเป็นลูกน้องของโกฟุก และมี 1 ราย ที่อยู่ระดับรองลงมาจากโกฟุก เป็นหัวคิดระดับแกนนำ มีพฤติการณ์ลักษณะร่วมกันคิดกับโกฟุก ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบัญชีม้า กลุ่มดำเนินการเกี่ยวกับระบบการรับจ่ายเงิน และดูแลด้านไอที ส่วนผู้ต้องหาอีก 11 ราย ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะผู้ต้องหารายสำคัญอย่างโกฟุก ซึ่งทราบจากรายงานว่า ภายหลังจากที่ศาลอาญาอนุมัติหมายค้นและหมายจับ โกฟุกไหวตัวทันชิงหลบหนีออกจากประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยไม่พบรายงานการเดินทางออกนอกประเทศผ่านท่าอากาศยาน ส่วนตัวบงการใหญ่กว่าโกฟุกนั้น ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีคนบงการที่ตัวใหญ่กว่าโกฟุก

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนยังไม่พบข้อมูลหลักฐานในสำนวนการสอบสวนว่า "โกฟุก" มีความสัมพันธ์พิเศษกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่น หรือมีเพียงคำพูดที่พูดต่อๆ กันมาเท่านั้น แต่ตนเชื่อว่าโกฟุกต้องมีลมใต้ปีกคอยให้ความช่วยเหลือ อย่างไรเราจะต้องขยายผลไปอีกสักระยะหนึ่ง สำหรับฐานความผิดของ 18 ผู้ต้องหา คณะพนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเมื่อสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 7 รายเสร็จสิ้น ก็ต้องดูผลการสอบปากคำว่าพบใครที่ร่วมกระทำผิดอีกหรือไม่ ถ้าพบเพิ่มเติมก็ต้องดำเนินการทางคดีเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นกลุ่มบัญชีม้าแถวอื่นๆ เพราะมีความเชื่อได้ว่าการทำธุรกรรมทางการเงินของขบวนการเครือข่ายโกฟุก อาจเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นด้วย รวมถึงพนักงานสอบสวนจะตรวจสอบ ขยายผลเรื่องการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของผู้ต้องหาทุกรายว่าถูกนำไปซุกซ่อน เปลี่ยนแปลงสภาพหรือไม่

...

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวต่อว่า สำหรับวงจรบัญชีม้าที่เข้ามาเกี่ยวข้องในขบวนการโกฟุกนั้น มีจำนวนมาก พนักงานสอบสวนจะต้องไล่เรียงและตรวจสอบว่าเงินถูกจ่ายโอนไปยังใครบ้าง เนื่องจากโกฟุกมีวิธีการอำพรางเส้นทางการเงินเป็นแผนประทุษกรรม ที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่สืบสาวถึงตัวเองได้ แต่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอสามารถสืบสวนจนเจอว่าบัญชีม้าต่างๆ เกี่ยวข้องกับโกฟุกอย่างแน่นอน ตามแนวทางการสืบสวนทราบว่า "โกฟุก" เป็นคนสองสัญชาติ คือ ไทยและเมียนมา พื้นเพโตมาจากจ.ระนอง และมาประกอบธุรกิจอินเทอร์เน็ต ดาต้าเซ็นเตอร์ในกรุงเทพฯ ซึ่งออฟฟิศที่ทำเรื่องหวยใต้ดินออนไลน์ พบว่ามีการตั้งออฟฟิศอยู่ประเทศไทย และยังพบว่าในบางช่วง โกฟุกมีการเดินทางข้ามไปดำเนินธุรกิจที่ประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ซึ่งเงินที่ได้ก็จะมีการถือข้ามระหว่างประเทศไทย และประเทศปลายทาง ส่วนผลการตรวจยึดเรื่องทรัพย์สินต่างๆ เจ้าหน้าที่พบรายการทรัพย์สินแบรนด์เนมจำนวนมาก ทั้งกระเป๋ายี่ห้อหรู เครื่องประดับ ซึ่งรายการทรัพย์สิน 1 ชิ้นมีมูลค่าหลักแสนบาท และมีหลายร้อยชิ้นรวมมูลค่าหลายสิบล้านบาท โดยตนจะแถลงผลการตรวจค้นจับกุมและรายละเอียดการสอบปากคำในวันที่ 5 ก.พ. เวลา 14.00 น. ที่ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เนื่องจากต้องขอเวลาให้พนักงานสอบสวนดำเนินการทางคดีให้เสร็จสิ้นครบถ้วนก่อน ส่วนการให้ปากคำนั้น ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ จะให้การซัดทอดหรือไม่ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ตนจะพิจารณาถ้อยคำให้การเเละพฤติการณ์ของผู้ต้องหา จากรายงานนำเสนอของคณะพนักงานสอบสวน ว่าควรให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนหรือไม่