จับครบแล้ว 5 คน แก๊งโหด อุ้มฆ่าหนุ่มวัย 33 ปี มัดมือมัดเท้าหามศพทิ้งริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ช่วงบางวัว บางปะกง หลังชุดสืบฯ บุกรวบ "ช่างกิต บางบ่อ" พฤติการณ์เป็นการปล้นฆ่าชิงทรัพย์ คนร้ายมาดูลาดเลาก่อนสะกดรอยตามผู้ตายบังคับอุ้มขึ้นรถ พบซาก จยย.ถูกชำแหละโยนทิ้งน้ำ คาดเป็นการจัดฉากปล้นสางแค้นส่วนตัว
เช้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ บริเวณด้านหลังประตูระบายน้ำ ริมถนนคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เฝ้าสังเกตการณ์ และรอชุดประดาน้ำอีกชุด เพื่อทำการงมหาปืนแบลงค์กันดัดแปลง ขนาด .38 ที่ นายกิตติโชติ แพรไพมูล อายุ 38 ปี หรือ ช่างกิต บางบ่อ หนึ่งในแก๊งอุ้มฆ่านายธนาสันต์ เตอั้น อายุ 33 ปี โยนร่างทิ้งไว้ที่บริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ขาเข้า กทม. ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ให้การว่าโยนทิ้งไว้ในคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิหลังก่อเหตุ โดยทีมนักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงเดินหน้าดำน้ำค้นหาของกลาง
นายสมควร แสงทอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู จุดบางบ่อ วันนี้มางมหา ของกลางเป็นอาวุธปืน คดีอุ้มฆ่าที่บางปะกง เมื่อตอนประมาณตี 3 คนข่าวบางปะกงได้โทร. มาหา ร้องขอชุดประดาน้ำทางตำรวจบางปะกง ขอชุดประดาน้ำงมของกลาง ที่คลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ เบื้องต้นจัดชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู มาสี่ตัวเพื่องมหาตอนตี 3 จนอากาศหมดตอนนี้รอชุดประดาน้ำชุดใหญ่ เพื่อพื้นที่การค้นหาจะได้กว้างกว่า คาดว่าน่าจะเจอของกลางเพราะผู้ต้องหารับสารภาพหมดแล้ว

...
ต่อมา เวลา 11.40 น. วันที่ 2 ก.พ. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางปะกง คุมตัว นายโอ๊ตหนึ่งในแก๊งอุ้มฆ่า และเป็นหลานของช่างกิต โดยมีการประสานนักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูกว่าสิบนาย ลงค้นหารถของกลางในน้ำ บริเวณคลอง 5 ต.บางปลา อ.บางพลี พบรถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ ที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาช่วยกันชำแหละก่อนนำมาโยนทิ้ง
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวพยายามสอบถาม นายโอ๊ต ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าทำหน้าที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายออกมาหลังจากที่ประกบอุ้มผู้ตายขึ้นรถ
ล่าสุด จากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มคนร้ายได้รับแรงกดดัน จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ นายนันทพัทธ์ หรือโอ๊ต, นายปานเทพ หรือแท๊ป,นายสุขสงกรานต์ หรือกรานต์ และ น.ส.อภิสรา หรือนิว ติดต่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพ และนำชี้จุดที่นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งไว้ในคลองส่งน้ำ ในเขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
สำหรับพฤติกรรมการก่อเหตุ กลุ่มคนร้าย จำนวน 5 คน มีการรวมตัวกันที่อู่ซ่อมรถของ นายกิตติโชติ หรือช่างกิต ใน ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีแดง ออกเดินทางไปยังบ้านของผู้ตาย เพื่อเฝ้ารอเวลาผู้ตายออกไปทำงาน และเมื่อผู้ตายได้เริ่มออกเดินทาง กลุ่มคนร้ายได้ขับขี่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจนถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 2 กิโลเมตร กลุ่มคนร้ายได้ขับรถปาดหน้ารถจักรยานยนต์ผู้ตาย และได้ลงมาบังคับผู้ตายให้ขึ้นรถมาด้วย จากนั้นจึงได้ขับขี่ไปตามเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างต่อเนื่องจนไปถึงจุดที่พบศพ และหลังจากก่อเหตุได้กลับไปยังอู่ของช่างกิต อีกครั้งหนึ่ง

จากพฤติการณ์การกระทำความผิดของกลุ่มคนร้ายทั้งหมด ถือเป็นความผิดฐาน "ปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีหรือใช้อาวุธปืน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายเสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและความจำเป็นเร่งด่วนและโดยไม่มีใบอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน" ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต
...
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังคงสอบสวนในรายละเอียด เนื่องจากผู้ต้องหา ให้การว่า เป็นการทะเลาะกันส่วนตัว ไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์