ศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งจำคุก 2 นศ.เทคโนฯปทุมวัน ฐานละเมิดอำนาจศาล ห้าวตามราวีกันไม่เลิกแม้กระทั่งในศาล ล็อก นศ.อุเทนฯ คู่อริที่ตามมาดูเพื่อนร่วมสถาบันขณะตำรวจคุมตัว 4 ผู้ต้องหามาฝากขังในคดีแทงนักศึกษาเทคโนฯปทุมวันดับ ลากเข้าห้องน้ำชายในศาลข่มขู่ไล่กลับบ้าน ทั้งคู่รับสารภาพศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุก 15 วัน ปรับ 250 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ส่วนผู้ต้องหาคดีรุมแทงคู่อริดับหน้าสถาบันได้ตัวครบทั้ง 9 คนแล้ว ฝากขังผัดแรกไปแล้ว 7 คน ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวตามคำร้องพนักงานสอบสวนนำตัวส่งขังที่เรือนจำ
กรณีนายวราวุธ หรือเร ขันคำนอก อายุ 25 ปี นศ.ปวส.ปี 1 แผนกไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ถูกกลุ่มสถาบันคู่อริรุมแทงเสียชีวิตที่หน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เหตุเกิดวันที่ 26 ม.ค. ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุเป็น นศ. และอดีต นศ.อุเทนถวายจำนวน 9 คน ชุดสืบสวน บช.น. เปิดปฏิบัติการทลายรังปลวกจับผู้ต้องหาได้ 3 คน ส่วนที่เหลือติดต่อทยอยเข้ามอบตัว ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ก.พ. ผู้ต้องหาที่เหลือทั้ง 6 คน เดินทางเข้ามอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับครบทั้งหมดแล้ว ร.ต.อ.อังภูร จรัสเมธาวิทย์ รอง สว. (สอบสวน) สน.ปทุมวัน นำตัวนายกฤษกร ตาเต่า อายุ 20 ปี นายมนต์ธัช หงส์แก้ว อายุ 21 ปี นายสหรัฐ ชงเชื้อ อายุ 20 ปี และนายเพชรมงคล ภัทรไพลิน อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมค้านการประกันเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์เกรงว่าจะหลบหนี ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน นายภูริ พลจันทร์ อายุ 30 ปี และนายวรกันต์ ขานทอง อายุ 19 ปี พนักงานสอบสวนควบคุมไว้สอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.
...
ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ตอนบ่ายวันเดียวกัน ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ไปยื่นคำร้องฝากขังผัดแรก เป็นชุดที่ 2 ต่อจากวันที่ 31 ม.ค. ที่นำผู้ต้องหาฝากขังไปแล้ว 3 คน ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวตามคำร้องของพนักงานสอบสวน นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ระหว่างยื่นฝากขังเจ้าพนักงานตำรวจศาลได้รับแจ้งว่า มีวัยรุ่นชายเป็นนักศึกษาอุเทนฯถูกชายวัยรุ่นนักศึกษาเทคโนฯปทุมวัน ติดตามมาดูเพื่อนที่ถูกจับ ล็อกคอพาเข้าไปที่ห้องน้ำชายชั้น 2 อาคารศาลอาญากรุงเทพใต้ จึงเข้าตรวจสอบและระงับเหตุ พบผู้เสียหายนายเทวา ศิริสุข อายุ 20 ปี นักศึกษาอุเทนถวายและผู้ก่อเหตุ คือนายองอาจ อาจอาษา อายุ 20 ปี และนายชญานนท์ คงธนภักดีเกษม อายุ 23 ปี นักศึกษาเทคโนฯปทุมวัน สอบสวนทราบว่า ดันตัวผู้เสียหายไปคุยในห้องน้ำถามว่าจบจากสถาบันไหนและไล่ให้กลับไป
เจ้าพนักงานตำรวจศาลตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ต่อมาศาลมีคำสั่งให้ตั้งสำนวนละเมิดอำนาจศาล ศาลไต่สวนแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองมีความผิดฐานประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล มีความผิดฐานละเมิดหน้าศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31 (1), 33 ให้จำคุกคนละหนึ่งเดือนและปรับคนละ 500 บาท ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง ลงโทษจำคุกคนละ 15 วัน และปรับคนละ 250 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29
ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เช้าวันเดียวกัน สถาบันจัดงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 90 ปี หรือวันบลูเดย์ มีศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันมาร่วมทำกิจกรรม เริ่มตั้งแต่เวลา 06.30-12.00 น. ทำบุญตักบาตร พิธี บวงสรวงพระวิษณุกรม และถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุสงฆ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.6 นำตำรวจคฝ. 2 กองร้อย มาดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกจราจร รวมทั้งตรวจค้นอาวุธพบนักศึกษา 2 คน พกพาอาวุธมีดนำตัวไปทำประวัติที่ สน.ปทุมวัน บรรยากาศงานสถาปนาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหตุการณ์ปกติ
ด้าน นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มวัยรุ่นใช้ความรุนแรงเฉพาะนักศึกษาสายอาชีพอาชีวะและช่างกลเกิดขึ้นบ่อยครั้งว่า พื้นฐานของเด็กแต่ละคนต่างกัน ทั้งวุฒิภาวะ ความคิด สิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีผลต่อการกระทำแต่ละคน โดยเฉพาะวัยรุ่นต้องการมีตัวตนในสังคม ต้องมีบางอย่างผูกโยงกันเป็นเครือข่ายจนเกิดเป็นความภูมิใจขึ้น ควรมีคุณค่าที่ดีต่อสังคม ต้องอาศัยคนรุ่นก่อนหน้าเป็นโมเดลที่ดีให้รุ่นน้อง แต่ไม่ได้เกี่ยวกับรุ่นพี่ทั้งหมดเพราะความรุนแรงมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น การลอกเลียนแบบ ต้นทุนที่เป็นภูมิคุ้มกันทางจิตใจ การบ่มเพาะในครอบครัวไม่ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา พื้นฐานครอบครัวเป็นอันดับแรก ต่อมาเป็นระบบโรงเรียน ระบบรุ่นพี่ หากเด็กที่มีต้นทุนที่ดีต่อให้รุ่นพี่ทำไม่ดี เด็กก็ไม่ทำตาม
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่