จับแล้วเกือบยกแก๊ง 4 คนร้ายควงปืนบุกจี้ร้านทองในห้างที่ จ.สุราษฎร์ธานี ปฏิบัติการอุกอาจ ได้ทองไป 1.3 ล้านบาท ตะลึงเยาวชนวัย 14-15 โผล่ร่วมทีมด้วย ผบช.ภ.8 เผยหัวหน้าแก๊ง ติดหนี้พนันบอล วางแผนชักชวนเด็กเดินยา ร่วมลงมือก่อเหตุ 

ความคืบหน้าเหตุคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 3 กระบอก บุกปล้นชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างเทสโก้โลตัส สาขาไชยา ริมถนนทางหลวงเอเชีย 41 ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีประชาชนออกไปจับจ่ายซื้อสินค้าอยู่ ได้ทรัพย์สินสร้อยทองรูปพรรณ จำนวน 40 เส้น น้ำหนัก 33.5 บาท มูลค่าประมาณ 1.3 ล้านบาท โดยนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งคลองชลประทานบ้านในไร่ หมู่ที่ 3 ต.เวียง อ.ไชยา ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 3.7 กิโลเมตร แล้วหลบหนีไป  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2567 นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ

...

ประกอบด้วย 1.นายสรายุทธ หรืออิฐ ฉิมกล่อง อายุ 38 ปี ชาว จ.ระยอง หัวหน้าแก๊ง ทำหน้าที่บุกปีนเข้าไปกวาดเอาทอง 2.นายภูวดล หรือภู คงเกษตร อายุ 18 ปี ถืออาวุธปืน 2 กระบอก ทำหน้าที่คุ้มกันก่อเหตุ 3.นายอโนชา หรือบอล แซ่หลี อายุ 33 ปี ทำหน้าที่ดูเป้าหมาย 4.นายโชค (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ทำหน้าที่ดูต้นทาง ส่วนคนที่ 5.นายจิ๊กโก๋ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์มารับคนร้ายที่จุดทิ้งอำพรางรถในคลอง ยังจับตัวไม่ได้

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 กล่าวว่า คดีนี้ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.8 ร่วมกับ กก.5 ป., กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ สภ.ไชยา เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ โดยพบว่ามีคนร้าย ทั้งหมด 5 คน ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 14-15 ปีอยู่ 2 คน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับและหมายเรียกในข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

จากการสืบสวนทราบว่า นายอโนชา ชาว อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี มีพฤติกรรมเป็นพ่อค้ายาเสพติดและเป็นญาตินายสรายุทธ ซึ่งนายสรายุทธ เป็นหนี้พนันฟุตบอลออนไลน์ 2 ล้านบาท จึงคิดปล้นร้านทองหาเงินใช้หนี้ แต่ไปดูลาดเลาแล้วไม่สามารถลงมือได้ จึงมาบอกนายอโนชา ชักชวนกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นลูกน้องส่งยาเสพติดอยู่แถวชุมชนใต้โค้ง ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน ร่วมก่อเหตุแบ่งหน้าที่กันทำงาน ซึ่งนายสรายุทธ คนวางแผนและตัวการสำคัญหลบหนี ตามไปจับกุมได้ที่ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม อีก 3 คนจับได้ในพื้นที่ อ.พุนพิน และเหลือเยาวชนอายุ 14 ปีจะได้ตัวเร็วๆ นี้ 

“ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันวางแผนโดยมาดูเป้าหมายก่อนลงมือก่อเหตุ 1 สัปดาห์ หลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนี และนำทองคำที่ปล้นมาได้ไปขายที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก จากนั้นนำทองคำและเงินที่ได้จากการขายมาแบ่งกัน โดยตำรวจใช้เวลา 10 วันสามารถปิดคดีได้ซึ่งนายสรายุทธ ตัวหัวโจกเป็นผู้ชักชวนชี้นำเยาวชนที่เปราะบาง มีปัญหามาจากครอบครัวร่วมก่อเหตุด้วยความฮึกเหิมและคึกคะนอง เป็นที่น่าวิตกห่วงใยมาก” พล.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าว