"เจ๋ง ดอกจิก" ปัดแก๊งตบทรัพย์ ปมรีด 1.5 ล้าน "อธิบดีข้าว" โบ้ยตำรวจตั้งข้อหารุนแรงไป จ่อฟ้องกลับ พร้อมอัด "อธิบดี" ถ้าไม่มีแผลจะมาเคลียร์ทำไม ลั่นสาบานได้ เพราะไม่เกี่ยวรีดทรัพย์ เห็นว่าพรรคพวกมาฝาก เป็นเพียงแค่คนประสาน ส่วน "การ์ตูน" ยืนยันว่าไม่ได้เรียกเงิน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.พ. 67 ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาแถลงข่าว พร้อมนำพวงมาลัยกับธูปเทียนแพมาด้วย โดยกล่าวว่า ตนเอง และ น.ส.พิมณัฏฐา ถูกกล่าวหาว่าเป็นแก๊งตบทรัพย์ระดับชาติ และถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงต้องออกมาชี้แจงเพื่อแก้คำกล่าวหา
นายยศวริศ กล่าวว่า ถูกยึดโทรศัพท์ไปตั้งแต่วันแรกในการมอบตัว จึงต้องพยายามนึกย้อนข้อมูลและไทม์ไลน์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดังนี้ วันที่ 18 ธ.ค. 2566 นายศรีสุวรรณ จรรยา และตนเอง พบข้อพิรุธส่อทุจริตในกรมฝนหลวงฯ เรื่องการบินเกษตร งบฯ 1,188 ล้านบาท และนัดหมายจะไปร้อง กมธ. วันที่ 20 ธ.ค. 2566 และแถลงข่าวโดยมีข้อมูลตรงกันกับนายศรีสุวรรณ ว่า กรมการข้าวก็มีเรื่องทุจริตเช่นเดียวกัน
ต่อมาพรรคพวกตนเองรู้เรื่อง จึงบอกว่าอย่าไปยุ่งกับกรมการข้าว เพราะอธิบดีเป็นน้องของตนเอง เป็นคนเสื้อแดงเหมือนกัน ตนเองเห็นว่าพรรคพวกขอร้องมา ในวันเดียวกันตนเองได้โทรศัพท์ไปหาอธิบดี แต่ไม่รับสาย และมีสายโทรกลับมาในเวลา 23.00 น. แต่ตนเองไม่ได้รับสาย
เช้าวันที่ 21 ธ.ค. 2566 โทรศัพท์กลับไป ปลายสายบอกว่าเป็นอธิบดีกรมการข้าว และนัดหมายดื่มกาแฟที่โรงแรมย่านบางเขน ก่อนบอกว่า โรงแรมคนเยอะ ขอเปลี่ยนไปนัดหมายที่กรมการข้าว และมีการโทรศัพท์ตามหลายครั้ง
...
ประมาณ 12.45 น. อธิบดีมานัดตนเองที่หน้าตึก ตนจึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่ฝากไว้ให้ดูแล และขึ้นไปที่ห้องอธิบดี โดยอ้างว่า อธิบดีบอกว่าขอให้ช่วยแก้ปัญหา และเคยตกลงกันไว้เป็นจำนวนเงินตามข่าว แต่ไม่ไหว จึงให้ตนเองเจรจาให้ ซึ่งตนเองบอกว่ามาวันนี้เพื่อช่วย เพราะเพื่อนฝากไว้ โดยจะช่วยเต็มที่เพราะเป็นคนเสื้อแดงเหมือนกัน รวมทั้งมอบหมายให้ภรรยาอธิบดี ติดต่อกับ น.ส.พิมณัฏฐา เพราะไม่มีเวลา
"เห็นว่าเป็นพวก เป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง โทรศัพท์ประสานงานให้ได้ยอดตามที่เป็นข่าว และโทรศัพท์กลับไปหาภรรยาอธิบดีให้พอไหวทั้งคู่ พึงพอใจทั้งสองฝ่ายและเลิกแล้วต่อกัน
นายยศวริศ กล่าวว่า การเจรจากันก่อนหน้านี้ระหว่างฝั่งอธิบดีและนายศรีสุวรรณ ตนเองไม่รู้เรื่อง มีเพียงหน้าที่คอยประสานงาน ยืนยันว่าตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องเพียงเท่านี้ ส่วน น.ส.พิมณัฏฐา ก็มีหน้าที่เพียงช่วยประสานงานเช่นเดียวกัน ยืนยันว่า ไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์ และไม่เคยคิดว่าในกรมการข้าวมีงูเห่า เรื่องทุจริตนั้นจริงไม่จริงต่างฝ่ายก็มีข้อมูล ถ้ามีการร้องก็ต้องสอบกัน คนเราถ้าไม่ผิด ไม่มีแผล จะเคลียร์ทำไม
นายยศวริศ กล่าวว่า ตนเองกับนายศรีสุวรรณร้องหลายเคส แต่ส่วนเป็นการทุจริตในองค์กร เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และไม่เคยมีใครมาเคลียร์กับตนเอง หรือตนเองไปเคลียร์กับใคร แล้วมากล่าวหาว่าเป็นแก๊งตบทรัพย์ได้อย่างไร เคสนี้เช่นเดียวกัน ผม คุณการ์ตูน ก็ไม่เคยได้เงินสักบาทเดียว ผมไม่รู้เรื่องตบทรัพย์และขอความเป็นธรรมกับประชาชน เพราะเกิดความเสียหาย ผู้หลักผู้ใหญ่มองผมว่าเป็นแก๊งตบทรัพย์ ทำมาหากินอย่างนี้
นายยศวริศ กล่าวว่า น.ส.พิมณัฏฐา กำลังมีอนาคตทางการเมือง กลับโดนตั้งข้อหาแบบนี้ ร้องไห้ทุกวันว่าไปเกี่ยวข้องหรือทำผิดอะไร เป็นเพียงผู้ประสานระหว่างผู้ร้องกับผู้ถูกร้อง นอกจากนี้ ตนเองขอความเป็นธรรมกับพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย ซึ่งการตั้งข้อกล่าวหาตบทรัพย์ เป็นข้อหาที่รุนแรงเกินควร และอยู่ระหว่างให้ทนายความรวมรวบข้อมูลดำเนินคดีผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์และเกรียนคีย์บอร์ด เพราะสร้างความเสียหายมาก โดยศาลจะวินิจฉัยว่าตนเองผิดหรือไม่ผิด ไม่ใช่ตำรวจที่ออกมาพูดจนสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นแก๊งตบทรัพย์
นายยศวริศ กล่าวว่า ไม่เคยรู้จักคนชื่อ "หมู" ส่วนที่โยงกันไปมานั้น ตนเองจะฟ้องทั้งหมด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ภรรยาอธิบดีเปิดบริษัทฯ ด้วยเงินลงทุน 600 กว่าล้าน เหตุใดร่ำรวยมาก
จากนั้น นายเจ๋ง ดอกจิก หยิบธูปเทียนแพ ลุกขึ้นสาบานว่า กรณีที่กล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้หน้าที่โดยมิชอบ เรียกทรัพย์เพื่อประโยชน์ตัวเอง และถ้าผมเป็นแก๊งตบทรัพย์ แก๊งเรียก ขอให้มีอันเป็นไป และถ้าไม่ได้เป็นแบบนั้น ขอบารมีพระแก้วมรกต ศาลหลักเมือง พระแม่ธรณี สิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณนี้ ไปจัดการกับคนที่กล่าวหาให้ทุกข์ใจเป็นร้อยพันเท่า รวมทั้งทุกคนที่คิดและเกี่ยวข้อง ขอให้มีอันเป็นไป และถ้าผมไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอให้ตัวเองเจริญขึ้นเรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน น.ส.พิมณัฏฐา หรือการ์ตูน กล่าวว่า ไม่รู้จะชี้แจงอะไร เพราะแค่ประสานและตามงาน ยืนยันว่าไม่ได้เรียกเงินใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่ เจ๋ง ดอกจิก ยืนยันว่า เรื่องเงินเขาต่อรองกันมาก่อน ไม่รู้เรื่อง และเมื่อครั้งไปที่ห้องอธิบดีกรมการข้าวมีการต่อรอง ยืนยันไม่มีเงินเข้ามาที่ตัวเองแน่นอน ผมช่วยเคลียร์ให้พึงพอใจทั้งสองฝ่าย แต่การตกลงตัวเลขมาก่อนไม่รับทราบ ไม่ได้อยู่ในวง และไม่เคยเจอหรือรู้จักอธิบดีกรมการข้าวมาก่อน ไปเจอครั้งเดียวในห้องตอนที่เข้าไปที่กรมการข้าวแค่ครั้งเดียว
ขณะที่ น.ส.พิมณัฏฐา หรือการ์ตูน กล่าวว่า ภรรยากรมการข้าว บอกว่าจะขอจ่ายให้ก่อน 100,000 บาท พอเขาตกลงกันแล้วเสร็จ และบอกว่าจะขอผ่อนจ่าย ตัวเองจึงต้องทำหน้าที่ประสานต่อไป
ส่วนเรื่องข้อความแชต เจ๋ง ดอกจิก บอกว่า ยันไม่ต่อรองเงินเพื่อตัวเอง ด้าน น.ส.พิมณัฏฐา กล่าวว่า แชตที่ถูกนำมาเผยแพร่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น หากอ่านทั้งหมดจะได้ข้อสรุปว่า ตัวเองเป็นแค่ผู้ประสาน แต่ตอนนี้ตนเองกลายเป็นคนที่ถูกกล่าวหาว่ารีดทรัพย์ และมือถือตอนนี้ก็อยู่กับตำรวจแล้ว ส่วนที่มีคำว่า "เราตกลงกันแล้ว" ไม่ได้หมายความว่าตัวเองกับเขาทำแบบนั้น เพราะเขาตกลงว่าจะจ่าย 1.5 ล้านบาท ส่วนที่พาดพิงว่าให้ทีมเด็ก อยู่ในสำนวนคดีทั้งหมดแล้ว
...