มึนๆอึนๆไปเรื่อย เตือนแล้วก็ไม่ยอมฟัง สุดท้าย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงรับคดี “ลุงเปี๊ยก” หรือ นายปัญญา คงแสนคำ สามี “ป้ากบ” หรือ น.ส.บัวผัน ตันสุ อายุ 47 ปี เหยื่อแก๊งลูกตำรวจ สภ.อรัญประเทศ อุ้มฆ่า เป็นคดีพิเศษไปเรียบร้อย
หลังลุงเปี๊ยกตกเป็นแพะ ถูกจับคลุมหัวไปข่มขู่ให้รับสารภาพ!
สุดท้ายหนีความจริงไม่พ้น เพราะนักข่าวเก่งกว่าหากล้องวงจรปิดระหว่างที่แก๊งลูกตำรวจรุมซ้อมป้ากบเหมือนเป็นเรื่องสนุกสนาน เหมือนตบหน้าชุดจับกุมให้อับอายไปทั้งบ้านทั้งเมือง
หลังกระมิดกระเมี้ยน ดำเนินคดีอาญา ด.ต.ภิเศก พวงมาลีประดับ หรือดาบเศก ตามมาตรา 157 เพียงคนเดียว?!
นายตำรวจใหญ่น้อย ยังออกมานั่งยันนอนยันว่าไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายฯเลยดำเนินคดีกับตำรวจแค่นี้ ส่วนตำรวจชุดจับกุมคนอื่นไม่เกี่ยวข้อง?
แต่ด้วยกระแสสังคมโหมไม่หยุด สุดท้าย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติรับคดีอุ้มลุงเปี๊ยกเป็นคดีพิเศษอย่างเป็นทางการ เพราะพิจารณาแล้วเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายฯ
เรียกว่า สวนความเห็นตำรวจเต็มใบ!
ประกอบด้านอัยการ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ออกมาให้ความเห็นสอดรับตามสื่อหลายสำนักว่า คดีอุ้มจับแพะลุงเปี๊ยก เข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายฯแน่ๆ
คราวนี้แหละ ชุดจับกุมมีใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง กำลังจะถูกขุดคุ้ยอย่างละเอียดยิบ โดยมีชีวิตราชการและอิสรภาพเป็นเดิมพัน!
ถ้าทำคดีซะเองให้มันโปร่งใส ตอบคำถามสังคมได้ไม่ดันทุรัง ป่านนี้เรื่องคงสงบไปแล้ว?
คราวนี้อำนาจสอบสวนไม่ได้อยู่ในมือ ตัวใครตัวมัน!
สหบาท
คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม
...