ชุดประดาน้ำกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา เริ่มค้นหา เมียฝรั่งรับมรดก 13 ล้าน ที่หายตัวปริศนา เข้าสู่วันที่ 20 แล้ว ชาวบ้านขนหัวลุก วิญญาณเข้าสิงคนรู้จักบอกถูกฆ่ายัดถุงดำโยนทิ้งน้ำ ขณะที่วันนี้ไร้เงาสามีชาวสวิสคนใหม่ ยืนสังเกตการณ์ เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านพัก
ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ที่ น.ส.อรทัย โพสีงาม ภรรยาชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับเงินมรดกจากสามีที่เสียชีวิตไปเมื่อปี พ.ศ.2564 มากกว่า 13 ล้านบาทไทย แล้วแต่งงานใหม่กับชายชาวสวิตเซอร์แลนด์อีกคน ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ประเทศไทย ที่บ้านโคกแขวน หมู่ที่ 5 ต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้ประมาณ 2 ปีเศษ แต่มาหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา หลังจากที่เกิดมีปากเสียงกับสามีใหม่ไม่ทันข้ามวัน
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 มกราคม 2567 ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 20 แล้วที่ น.ส.อรทัย หายตัวไป ทางญาติได้ขอความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา นำกำลังชุดประดาน้ำมางมตรวจสอบสระน้ำข้างวัดโคกแขวน ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน อยู่หลังบ้านพัก น.ส.อรทัย ห่างไปประมาณ 200 เมตร โดยสระน้ำดังกล่าวมีความกว้างประมาณ 5 ไร่ ที่ทางญาติสงสัยว่าหาก น.ส.อรทัย ถูกฆาตกรรม ก็อาจจะถูกนำตัวมาทิ้งอำพรางศพที่นี่ได้ เพราะก่อนหน้านี้มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าลูกสาวถูก น.ส.อรทัย เข้าสิงแล้วบอกหมายเลขโทรศัพท์ญาติ เพื่อให้ช่วยติดต่อให้ทางครอบครัวช่วยงมค้นหาร่างที่ถูกยัดถุงดำถ่วงน้ำขึ้นมาโดยเร็ว เพราะตอนนี้ตัวเองหนาวและทรมานมาก รวมถึงยังมีร่างทรงอีกหลายร่างที่โทรมาบอกเรื่องราวในลักษณะเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางชุดประดาน้ำได้ทำการงมค้นหาสระน้ำบริเวณที่ทางญาติคาดว่าจะมีร่างของ น.ส.อรทัย อยู่ไปแล้ว 2 จุด พร้อมกับสูบสระน้ำไปแล้ว 1 สระแต่ก็ยังไร้วี่แวว
...
ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมาได้ใช้ชุดประดาน้ำ 5 ราย เริ่มทำการดำน้ำค้นหาเมื่อเวลา 10.00 น. ท่ามกลางบรรดาญาติพี่น้องและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่มามุงดูเหตุการณ์และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และครอบครัวของผู้สูญหายนับร้อยชีวิต โดยทางชุดประดาน้ำได้ใช้วิธีดำหน้ากระดานค้นหาริมขอบสระน้ำโดยรอบ เพราะสระน้ำนั้นค่อนข้างกว้างไม่มีเรือ คาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ในขณะที่บรรดาญาติพี่น้องกำลังลุ้นระทึกกับการค้นหาร่างพี่สาว แต่ก็ไร้วี่แววของสามีชาวต่างชาติของผู้สูญหายซึ่งไม่ได้มาดูเหตุการณ์ในวันนึ้ หรือแม้แต่ตลอดระยะเวลาที่มีการค้นหา ส่วนใหญ่จะเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้านพัก จะออกจากบ้านเพียงแค่เวลาไปกินข้าวหรือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวไปสอบปากคำเท่านั้น ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปทำการสอบปากคำเพิ่มเติมและเก็บตัวอย่างกระพุ้งแก้มเพื่อเก็บดีเอ็นเอไว้ประกอบแนวทางสืบสวนแล้ว
ขณะที่นางสาวธิดารัตน์ โพสีงาม น้องสาวของ น.ส.อรทัย ผู้สูญหาย เปิดเผยว่า จะพยายามพึ่งทุกสิ่งทุกอย่างและทุกวิถีทางที่จะตามหาตัวพี่สาวกลับคืนมาให้ได้ไม่ว่าจะกลับมาในรูปแบบใดก็ตาม
ส่วนเรื่องของเงินมรดกที่พี่สาวได้ติดตัวกลับมา หลังจากที่สามีชาวต่างชาติเสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ.2020 หรือปี พ.ศ.2564 ประมาณ 13 ล้านบาทนั้น ส่วนตัวไม่รู้รายละเอียดของเส้นทางการเงินก้อนนี้มากนัก เท่าที่ทราบพี่สาวได้นำมาซื้อรถยนต์ ที่นา ส่งเสียลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่อาชีวศึกษาแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา และก็มีการจดบันทึกรายชื่อและรายการที่มีผู้ยืมเงินไปด้วยจำนวนหนึ่ง และด้วยความที่พี่สาวเป็นคนชอบเล่นพนันก็อาจจะใช้จ่ายในส่วนนี้ไปด้วย
...
อีกทั้งพี่สาวยังไม่ได้ทำงานอะไร จึงทำให้อาจจะใช้จ่ายมากพอสมควร ส่วนการเข้าถึงการเบิกจ่ายเงินก็มีเพียงพี่สาวและสามีคนปัจจุบันเท่านั้น จึงทำให้ไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมดในเรื่องนี้ และหลังจากที่เกิดเรื่องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำหมายเลขบัญชีของพี่สาวไปติดตามหาหลักฐานตามขั้นตอน ส่วนสมุดเงินฝากนั้นตัวเองได้นำมาปรับสมุดดูแล้ว แต่ด้วยการเบิกจ่ายเงินจำนวนมากทำให้สมุดไม่พอที่จะบันทึกรายการทั้งหมด จึงไม่รู้ว่าจำนวนเงินคงเหลือตอนนี้อยู่ที่เท่าไร
โดยรายการเงินที่พี่สาวใช้จ่ายที่ น.ส.ธิดารัตน์ พอจำได้ ประกอบไปด้วย ซื้อรถเก๋งซีวิคสีดำที่ใช้อยู่ประจำ ประมาณ 1.4 ล้านบาท, ซื้อที่นาจำนวน 8 ไร่ เป็นเงินประมาณ 1.2 ล้านบาท และมีหลักฐานการรับจำนำที่ดินจำนวน 5 ไร่ เป็นเงิน 4 แสนบาท รถจักรยานยนต์พีซีเอ็กซ์ 1.2-1.3 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีรายการรายชื่อผู้กู้ยืมเงินอีกจำนวนหนึ่งด้วย แต่ตอนนี้อยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ