ต้นสังกัดทำเรื่องให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว พร้อมคัดค้านการประกันตัว "รอง สวป.สภ.หนองปลิง" ค้ายาบ้า ขณะที่ชุดจับกุมยันไม่ได้กลั่นแกล้ง ไม่มีวางงาน ผงะเจอยาบ้าอีก 82 เม็ด ในห้องน้ำโรงพัก ยังไม่รู้ใครเป็นเจ้าของ ส่ง พฐ.ตรวจหารอยนิ้วมือ
จากกรณี ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ อัมพเศวตร์ อายุ 55 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ลักลอบค้ายาบ้าบริเวณข้างโรงพักที่ตนเองสังกัดอยู่ จนนำไปสู่การถูกล่อซื้อและจับกุมตัวได้คาเครื่องแบบ พร้อมของกลางยาบ้า หลังชุดจับกุมได้ส่งสายไปล่อซื้อและเป็นที่มาของการจับกุม กระทั่งล่าสุด ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ได้ออกมาให้ข่าวกับสื่อส่วนกลาง โดยอ้างว่าตนเองโดนวางงาน และค้นห้องพักจนได้ยามาทั้งสิ้น 333 เม็ด และอ้างว่าที่ตนเองไม่มียาเสพติดและไม่มีการล่อซื้อตามที่เป็นข่าว ส่วนเงินล่อซื้อที่เจอที่ตัว อ้างว่านายบอยนำเงินมาใช้หนี้ตนเอง และมีเบอร์แบงก์ตามที่ชุดจับกุมได้อ้างไว้ นั้น
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็น วานนี้ (22 ม.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้ขอข้อมูลจากชุดจับกุม พร้อมขอคำชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยได้ชี้แจงว่า ชุดจับกุมได้ให้สายล่อซื้อยาจาก ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ โดยมีการลงบันทึกประจำวันและเบอร์เงินล่อซื้อ จำนวน 1,500 บาท โดยให้ไปล่อซื้อยาบ้าจำนวน 50 เม็ด จาก ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ โดยให้สายล่อซื้อโดยการโทร. หา พร้อมนัดรับของกันที่ข้างโรงพัก โดยมีชุดจับกุมเฝ้าดูและถ่ายคลิปตามขั้นตอน
ซึ่งสายได้จ่ายเงินไปจำนวน 1,500 บาท แต่สายได้รายงานว่า ได้ติดหนี้ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ จึงได้ยาบ้ามาแค่ 40 เม็ด และเงินล่อซื้อที่เจอในตัว ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ มีแค่ 1,000 ตามที่กล่าวอ้างว่านายบอย (สายตำรวจ) นำมาใช้หนี้นั้น โดย ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ อ้างได้จ่ายค่าล้างแอร์ไป 800 บาททำให้มีแบงก์ที่ล่อซื้ออยู่ที่ตัว 1,000 บาท
...
ส่วนเรื่องของกลางตามที่ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ อ้างว่าไม่มีที่ตัวตนเองนั้น ชุดจับกุมได้ชี้แจงว่า วันที่จับมีเพียง 40 เม็ด ที่ล่อซื้อได้เท่านั้น ส่วนอีก 82 เม็ด ได้เจอที่ห้องน้ำในโรงพัก แต่ด้วยลักษณะสียาและการจัดเก็บตรงตามที่ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ นำมามอบให้กับสายล่อซื้อ และได้ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหารอยนิ้วมือแล้ว
และที่อ้างว่าไปตรวจค้นที่ห้องพักกับที่รถแล้วไม่ให้ตนชี้ของกลาง ชุดจับกุมแจ้งว่า ไม่เจอยาที่ห้องพักและที่รถ จึงไม่มีการชี้ของกลาง แต่ได้ให้เซ็นเอกสารการตรวจฉี่และใบรับสารภาพ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ได้ปฏิเสธไม่ยอมเซ็นเอกสารใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้การในชั้นศาล และขอประกันตัวออกมาสู้คดีจนเป็นที่มาของการให้ข่าวดังกล่าว
และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ยืนยันว่าไม่มีการกลั่นแกล้งใดๆ ทั้งสิ้น ทำตามกฎหมาย
โดยล่าสุดต้นสังกัดทำเรื่องให้ออกจากราชการไว้ก่อนและทำเรื่องค้านการประกันตัว เกรงว่าจะมาข่มขู่พยานคาดว่าจะมีคำสั่งมาเร็วๆ นี้