แม่ค้าในโรงพักยังตกใจ รอง สวป.หนองปลิง นครสวรรค์ จากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ผันตัวเป็นเอเย่นต์ยานรก บอกมาดดี กิริยาเรียบร้อย พูดน้อย นอบน้อมถ่อมตน ดูไม่ออกว่าจะกล้าตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ยาบ้าขายกันข้างโรงพัก
กรณีการจับกุมตัว ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ อัมพเศวตร์ อายุ 55 ปี รองสารวัตรฝ่ายปราบปราม สภ.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ลักลอบค้ายาบ้าบริเวณข้างโรงพักที่ตนเองสังกัดอยู่ จนนำไปสู่การถูกล่อซื้อและจับกุมตัวได้คาเครื่องแบบ พร้อมของกลางยาบ้ารวม 82 เม็ด และเงินสดของกลางล่อซื้อ 1,000 บาท
โดย ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ระบุเหตุที่ต้องมาเป็นนักค้ายาบ้า เนื่องจากเสพยามานาน ต้องการหาเงินมาซื้อเสพ และเอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงผันตัวมาเป็นเอเย่นต์รายย่อย และใช้สถานที่บริเวณโรงจอดรถของกลาง ด้านข้างโรงพัก เป็นสถานที่ขายมาแล้วหลายครั้ง เพราะรู้สึกถึงความปลอดภัยทั้งกับตนเอง และนักเสพที่เดินทางมาซื้อ
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุด วันที่ 19 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ขาย ที่มีร้านค้าขายอาหาร ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับโรงพักหลายราย ต่างก็บอกว่าไม่คิดว่า ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ จะมาเป็นนักค้ายานรกที่แฝงอยู่ในคราบของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เนื่องจากเท่าที่เห็นและรู้จัก เจ้าตัวที่มักจะมาซื้อของในมาดดี กิริยาเรียบร้อย พูดน้อย พูดเสียงค่อย และดูนอบน้อมถ่อมตน เลยดูไม่ออกว่าจะกล้าตั้งตัวเป็นนักค้า ขายยาบ้ากันข้างโรงพัก
สอบถาม นางสร้อย อายุ 63 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวแบบไม่มองหน้าว่า เท่าที่เคยรู้จักกับ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ มานาน ก็ดูเป็นคนนิสัยดี และดูเรียบร้อย ไม่วางมาด แถมใครมีเรื่องเดือดร้อนอะไร เขาก็ช่วยเหลือตลอด ซึ่งไม่มีอะไรบ่งบอกเลยว่าเขาเป็นคนไม่ดี ส่วนวันที่เจ้าตัวถูกจับ ตนเองไม่เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากของขายหมด จึงกลับบ้านไปก่อน จนกระทั่ง มารู้เมื่อเช้า ดูข่าวทีวี จึงรู้สึกตกใจมาก และไม่น่าเชื่อว่า คนที่มีมาดสุภาพ พูดน้อย เรียบร้อย และคนช่วยเหลือผู้อื่นแบบนี้ จะมาเป็นนักค้ายาเสพติด ปล่อยสิ่งชั่วร้ายเข้าสู่สังคมเสียเอง
...
ด้านนายปราโมทย์ อายุ 46 ปี พ่อค้าอีกราย กล่าวว่า ส่วนตัวไม่รู้ และไม่คิดว่า ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ มีพฤติกรรมค้ายาบ้าข้างโรงพัก เนื่องจากเพิ่งจะมาเช่าตั้งร้านค้าขายอยู่ได้ไม่นาน แต่วันที่เขาถูกจับ ก็เห็นเหตุการณ์ว่าเขาถูกจับคาเครื่องแบบ ส่วนรายละเอียดอื่นตนไม่ทราบ แต่ก็มองว่า เป็นถึงตำรวจระดับรอง สวป. ไม่น่าจะมามีพฤติการณ์แบบนี้ จึงอยากให้ตำรวจทุกโรงพักคอยสอดส่องพฤติกรรมตำรวจในโรงพักตัวเอง หากพบว่าไปทำผิด โดยเฉพาะการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม ก็ขอให้กวาดล้างให้หมด หากยังเป็นอยู่เช่นนี้ ประชาชนก็จะไม่ไว้ใจตำรวจเพราะมีหน้าที่จับคนผิด แต่กลับมาทำความผิดเสียเองประชาชนจะไว้ใจตำรวจได้อย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่า ยังมีตำรวจแบบนี้ฝังตัวอยู่ทั่วทุกโรงพัก ทุกจังหวัด