"แม่น้องโยโกะ" เดินทางมา สน.คลองตัน เข้าพบชุดคลี่คลายคดี เพื่อรับฟังคำชี้แจง ปมการเสียชีวิตปริศนาของลูกสาว พร้อมนำคลิปวงจรปิดคอนโดมามอบให้ตำรวจ ยังติดใจกล้องไม่บันทึก 2 ชม.อาจเกิดอะไรกับโยโกะ ส่วนขวดไซยาไนด์ในห้อง ก็ยังไม่เห็นหลักฐานสั่งซื้อ เชื่อไม่ได้ทำร้ายตัวเอง เพราะไม่มีสัญญาณใดบ่งบอก

กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.พราวรวี สหัสธัชพงศ์ หรือ โยโกะ พริตตี้ชื่อดัง ที่พบไซยาไนด์ในร่างกาย ทำให้นางกมลพัฒน์ (ชื่อเดิมธัญพัฒน์) สหัสธัชพงศ์ อายุ 53 ปี มารดาติดใจสาเหตุการตาย 

ความคืบหน้าที่ สน.ตลองตัน เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 มกราคม 2567 นางกมลพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ อายุ 53 ปี พร้อมนางสาวบุศยรินทร์ สหัสธัชพงศ์ อายุ 17 ปี มารดาและน้องสาวของน.ส.พราวรวี หรือ น้องโยโกะ พริตตี้ชื่อดัง ที่ถูกพบเป็นศพในคอนโดมิเนียมหรูย่านเอกมัยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 แต่ครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน และชุดคลี่คลายคดี สน.คลองตัน เพื่อรับฟังพยานหลักฐานและคำชี้แจงจากตำรวจ

นางกมลพัฒน์ เปิดเผยก่อนเข้าพบตำรวจว่า วันนี้ได้นำหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดตัวเดียวกับที่นิติบุคคลของคอนโดมิเนียมอ้างกับตำรวจว่าเป็นระบบ Motion Sensor ที่บันทึกเฉพาะช่วงที่กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหวพบ เช่น มีคนเดินผ่าน แต่ครอบครัวพบว่าจากกล้องตัวเดียวกัน แต่คนละวัน แม้จะไม่มีคนเดินผ่านหรือความเคลื่อนไหวใดๆ ก็ตาม กล้องก็ยังบันทึกตามปกติ ครอบครัวจึงเชื่อว่า 2 ชั่วโมงที่กล้องไม่บันทึก หรือขาดหายไป อาจเกิดอะไรบางอย่างขึ้นกับโยโกะ จึงยังไม่เชื่อคำให้การของนิติบุคคล

ส่วนประเด็นประตูหลังห้องที่ตำรวจอ้างว่าได้เก็บลายนิ้วมือแฝง และไม่พบลายนิ้วมือบุคคลอื่นนอกจากโยโกะนั้น ตนยังไม่เห็นพยานหลักฐาน ยังไม่ปักใจเชื่อ ขอดูหลักฐานก่อน เช่นเดียวกับการสั่งซื้อสารไซยาไนด์ ตนยังไม่เห็นเอกสารคำสั่งซื้อใดๆ และตนเคยมาสอบถามผู้กำกับการ สน.คลองตันแล้วครั้งหนึ่ง พบเพียงประวัติการค้นหาคำว่า "ไซยาไนด์" แต่ไม่พบประวัติคำสั่งซื้อ และขวดยาไซยาไนด์ก็ต้องเอาลายนิ้วมือและผลดีเอ็นเอมายืนยัน ดังนั้นส่วนตัวเชื่อว่าโยโกะไม่ได้ทำร้ายตัวเอง เพราะไม่มีสัญญาณใดๆ บ่งบอก

...

นางกมลพัฒน์ เผยอีกว่า ส่วนเพื่อนชายคนสนิทที่ตำรวจเรียกมาสอบปากคำนั้น คำให้การที่ให้กับตำรวจ ก็ไม่ตรงกับที่เคยคุยกับแม่ในงานศพก่อนที่จะเป็นข่าว เช่น เรื่องที่อ้างว่าโทรศัพท์หาโยโกะหลายครั้ง แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการโทรคนละช่วงเวลากับที่ไปหาโยโกะที่คอนโดมิเนียม ครอบครัวจึงสงสัยว่าในเมื่อฝ่ายชายไปหาที่คอนโดมิเนียม ทำไมถึงไม่โทรหาโยโกะ ส่วนที่อ้างว่าฝ่ายชายขึ้นไปบนห้องของโยโกะไม่ได้ เพราะไม่มีคีย์การ์ดเข้าคอนโด แม่เชื่อว่าฝ่ายชายสามารถขึ้นไปบนห้องของโยโกะได้ เพราะห้องของโยโกะมีคีย์การ์ด 2 ใบ และฝ่ายชายก็ทราบรหัสผ่านเข้าห้อง ดังนั้นจึงอยากให้ฝ่ายชายออกมาชี้แจง เพราะหลังจากงานศพก็ไม่เคยติดต่อมาอีกเลย 

นอกจากนี้เมื่อสื่อมวลชนถามว่าโยโกะเคยถูกทำร้ายหรือไม่ แม่ก็บอกว่าทราบว่าโยโกะเคยถูกทำร้ายเมื่อเดือน พ.ค. 66 โดยโยโกะ ส่งรูปให้ดูว่าถูกทำร้ายแต่ไม่ได้บอกสาเหตุ และเท่าที่ได้พูดคุยกับเพื่อนโยโกะหลายคน ต่างก็มีประเด็นสงสัยคล้ายๆ กับที่ครอบครัวสงสัยเช่นกัน ทั้งนี้แม่ยอมรับว่าโยโกะเคยรักษาโรคซึมเศร้า แต่ช่วงหลังอาการไม่หนักแล้ว จึงไม่ได้ทานยาแล้ว เพราะเหลือเพียงอาการเครียดเท่านั้น

นางกมลพัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตามครอบครัวโยโกะเตรียมประสานแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขอความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและระยะเวลาที่จะสามารถเก็บดีเอ็นเอไปตรวจสอบได้ เพราะยังคาใจการทำงานของตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐานอยู่

ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆ