แจ้งข้อหาแม่ลูกโหด ฆ่าเผานั่งยาง อ้างไม่มีเงินจ่ายค่าโดยสาร ถูกด่าบุพการี

ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ภูธรภาค 6 จับกุม หนุ่มวัย 22 กับแม่วัย 42 ผู้ต้องหาร่วมฆ่าคนขับรถบริการ App Bolt และเผานั่งยางที่ชลบุรี ขณะหลบหนีกลับภูมิลำเนา จ.พิษณุโลก อ้างทะเลาะกันเรื่องค่าโดยสาร แอปฯ ธนาคารล่ม เงินสดไม่มีจ่าย ถูกด่าถึงบุพการี จึงแทงตายแล้วปรึกษาแม่นำศพไปเผานั่งยาง ติดต่อหาคนซื้อรถ โดยมีแฟนสาวลูกครึ่งวัย 16 ปี อยู่ในเหตุการณ์ และร่วมก่อเหตุด้วย 

จากเหตุสะเทือนขวัญ ฆ่าโหดนายธนาธิป แวดไธสง หรือโน่ อายุ 31 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ มีอาชีพขับรถเก๋ง รับ-ส่ง ผู้โดยสาร ผ่านแอปพลิเคชัน (Grab-Bolt) ในพื้นที่เมืองพัทยา แล้วนำศพไปเผานั่งยางในป่าทางขึ้นเขาวัดถ้ำประทุน โดยเหตุเกิดต่อเนื่องตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 12 มกราคม ตามที่ชาวบ้านเห็นเหตุการณ์สุดโหด คนร้ายใช้มีดแทงนายโน่ โดยไม่มีความปรานี แม้จะส่งเสียงร้องขอชีวิตก็ตาม ก่อนจะลากร่างโชกเลือดขึ้นรถ แล้วไปวางแผนเผานั่งยางด้วยการใช้ยางรถจยย.เพียง 4 เส้น ทำให้ไฟไหม้ศพไม่หมด จนกระทั่งมีชาวบ้านมาเจอ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการหาเบาะแสจากพยานแวดล้อม กล้องวงจรปิด จนทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด รวมถึงรถยนต์ของผู้ตายด้วยว่าถูกนำไปหวังจะขายให้กับคนรู้จักกับแม่ผู้ก่อเหตุ ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

เวลา 22.30 น. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาคดีฆ่าและเผานั่งยาง 2 คนจัดส่งขึ้นรถไปดำเนินคดีตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่สถานีตำรวจภูธรหนองปรือ หลังจาก พ.ต.ท.อัศนันท์ ธนเลิศภูวเวทย์ รอง ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.2, พ.ต.ท.เจนรบ เนติรัตนไพบูลย์ สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.6 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.6 ได้ร่วมกันควบคุมตัว นายธีรพรรดิ์ สมคำ อายุ 22 ปี และนางเอลีย่าห์ อับดลลาฮี อายุ 51 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก มาซักถามและบันทึกคำให้การ เนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 ต่อเนื่องถึงวันที่ 14 มกราคม 2567 มีเหตุใช้อาวุธมีดแทง ในพื้นที่สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี และเหตุเผานั่งยาง สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ต่อเนื่องกัน ผู้ตายชื่อ นายธนาธิป แวดไธสง อายุ 30 ปี

เบื้องต้น นายธีรพรรดิ์ สมคำ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 11 มกราคม เวลาประมาณ 23.00 น. ได้เรียกใช้บริการ App Bolt ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับการให้บริการรับส่งผู้โดยสาร เพื่อให้ไปส่งตนเองกับแฟนสาวลูกครึ่ง เป็นเยาวชนอายุ 16 ปี ที่ซอยตาลหมัน 10 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุกลางดึกของวันที่ 12 ม.ค. 67 นายธีรพรรดิ์ได้มีปากเสียงทะเลาะกับคนขับรถเรื่องค่าโดยสาร เพราะแอปฯ ธนาคารจ่ายเงินช่วงเวลานั้นไม่ได้ จึงทำให้ไม่มีเงินจ่ายและได้พยายามโทรขอยืมเงินจากหลายคนแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงถูกด่าทอถึงแม่ จึงบันดาลโทสะได้ลงมือแทงคนขับรถด้วยมีดที่นายธีรพรรดิ์พกติดตัวไว้ จนถึงแก่ความตาย ซึ่งมีคนเห็นและให้ตำรวจเข้าตรวจสอบแล้วพบแต่รอยเลือดไม่พบคู่กรณี เนื่องจากนายธีรพรรดิ์ได้ลากร่างผู้ตายขึ้นรถหลบหนีไป

หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์หามารดา บอกว่ามีศพอยู่ในรถ ก่อนขับรถไปรับมารดาที่หน้าห้างสรรพสินค้าอเวนิว ในตัวเมืองพัทยา เพื่อปรึกษาว่าจะจัดการอย่างไรกับศพ เบื้องต้นนำศพนั่งเบาะหลังรถเก๋ง โดยมีมารดาของนายธีรพรรดิ์นั่งประกบมาด้วยตลอด ขับรถไปจอดพักที่บริเวณเซเว่นฯ นาเกลือ 16 และจอดที่ตรงข้ามเซเว่นนาเกลือ 17 จนถึงเวลาประมาณช่วงดึกต่อเนื่องถึงวันที่ 13 ม.ค. 67 ได้ขับรถไปจอดที่เซเว่นฯ หนองใหญ่ อยู่สักครู่จึงได้ขับรถออกมาเมื่อผ่านร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ได้จอดรถเพื่อนำยางรถจักรยานยนต์จำนาน 4 เส้น และซื้อน้ำมันที่ปั๊ม ปตท.แห่งหนึ่ง จำสาขาไม่ได้ จำนวน 70 บาท ต่อมาเวลาประมาณ 03.30 น. ขับรถไปจอดด้านหน้าป่าละเมาะ บริเวณเขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นนายธีรพรรดิ์กับพวก ได้ลากศพผู้ตายลงไปเผา เมื่อเผาเสร็จ ได้ขับรถไปจอดนอนที่บริเวณนาเกลือ 12 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนถึงเวลาประมาณ 16.00 น. ได้ขับรถออกไปจอดที่เซเว่นฯ หนองใหญ่ 14 ซึ่งอยู่ใกล้กับหอพัก ที่เช่าไว้ ชื่อหอพักวิชญาณ์ ห้อง 209 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อเข้าไปอาบน้ำ 

ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. ได้นำรถไปล้างที่ซอยโพธิสารซึ่งอยู่ใกล้กับหอพัก ต่อเนื่องถึงวันที่ 14.00 น. เมื่อล้างรถเสร็จได้ขับรถเข้ากรุงเทพมหานคร แถวถนนพระราม 6 เพื่อไปบริเวณจุดนัดพบกับคนชื่อโบว์ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ที่ได้นัดหมายจะนำรถ ให้นายโบว์ไปขายที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ต่อมาช่วงสายเวลาประมาณ 19.00 น. คนชื่อโบว์ได้มาหานายธีรพรรดิ์ที่จุดนัดพบแล้วขับรถ พาทั้ง 3 คนไปส่งที่คิวรถตู้เซ็นทรัลพระราม 2 แล้ว ทั้งสามคนได้นั่งรถโดยสารไปที่พักบริเวณสุขุมวิทซอย 1 จนถึงเวลาประมาณ 20.00 น. ทั้งสามได้ออกจากที่พักไปที่สถานีขนส่งหมอชิต ซื้อตั๋วรถทัวร์เพื่อเดินทางมาที่จังหวัดพิษณุโลก ต่อเนื่องวันที่ 15 ม.ค. 67 เวลาประมาณ 03.00 น. เดินทางมาถึงจังหวัดพิษณุโลก และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองพิษณุโลก จนถูกควบคุมตัวกลับไปดำเนินคดีดังกล่าว 

ล่าสุด เวลา 06.00 น. วันที่ 16 มกราคม 2567 ทีมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปรับตัว ผู้ก่อเหตุทั้งหมดประกอบด้วยนายธีรพรรดิ์ สมคำ อายุ 23 ปี หรือวา ข้อกล่าวหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้เสียหายเคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ศพ ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ส่วนแม่ คือ นางเอลีย่าห์ อับดลลาฮี อายุ 51 ปี ฐานทำให้เสียหายเคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย รับของโจร ส่วน นางสาวมี่ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี แฟนสาวของ นายธีรพรรดิ์ สมคำ ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากเป็นเยาวชน ต้องรอสอบปากคำ ต่อหน้า สหวิชาชีพ เพื่อสอบสวนว่าจะตั้งข้อหาอะไรเพิ่มเติม

ทั้งนี้ สามารถจับกุมตัวทั้งหมดได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก หลังจากที่ผู้ก่อเหตุพากันหลบหนีไปกบดาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่แกะรอยจนรู้ตัวและกดดันไล่ล่าทุกวิถีทาง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุในการลงมือแทง คนขับโบลต์อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ผู้ก่อเหตุได้ก้มหน้าส่ายศีรษะ และอยู่ในอาการเครียดทั้ง 3 คน 

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน โดยตำรวจได้เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า ปมเหตุโหดในครั้งนี้เป็นการมีปัญหากันเรื่องค่าโดยสาร ไม่มีจ่าย จนเกิดมีปากเสียงกัน ผู้ก่อเหตุจึงตัดสินใจ จ้วงแทงหมายเอาชีวิต ก่อนจะโทรปรึกษาแม่ เพื่อหาวิธีจบปัญหาในเรื่องศพของผู้ตายแต่ทว่าวิญญาณของผู้ตาย ต้องการทวงความเป็นธรรม จึงดลใจให้ชาวบ้านที่มาทำบุญไปพบศพ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมนั้นผู้บังคับบัญชาจะมาแถลงให้ทราบในภายหลังต่อไป