ตำรวจ สภ.ดำเนินสะดวก จับเพิ่มอีก 3 แก๊งหัวหน้า รปภ.ปืนโหด ชัก 9 มม. ไล่ยิงผู้จัดการบริษัท รปภ.ฝ่ายตรงข้าม ตายสยองพร้อมลูกน้องรวม 3 ศพ-บาดเจ็บอีก 2 คาป้อมยามโรงไฟฟ้าที่ราชบุรี พร้อมเผยข้อมูลขัดแย้งสู่ปมสังหาร

จากกรณีที่ นายบุญเลิศ สายะสิทธิ์ อายุ 49 ปี หัวหน้า รปภ.ประจำโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้จัดการ บริษัท รปภ.ฝ่ายตรงข้าม เสียชีวิตพร้อมลูกน้องรวม 3 ศพ บาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดบริเวณป้อมยามรักษาการโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่หนีไม่รอดถูกตำรวจตามจับกุมตัวทันควัน อ้างบันดาลโทสะเพราะมีปัญหาขัดแย้งเรื่องแบ่งพื้นที่ดูแลโรงไฟฟ้าดังกล่าว แต่กลับโดนลดบทบาท หลังโรงไฟฟ้าจ้างบริษัทผู้ตายเข้ามาร่วมดูแลพื้นที่ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 14 ม.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดำเนินสะดวก ได้จับกุมผู้กระทำความผิดร่วมกับ นายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุ เพิ่มเติมอีก 3 ราย คือ 1. นายมนต์ชัย หรือ นายดำ อยู่พิพัฒน์ อายุ 47 ปี ชาว ต.ดอนคลัง อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่นและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ พร้อมของกลางอาวุธปืนยาว ชนิดเดี่ยวลูกซอง ขนาด 12 (5 นัด) ยี่ห้อ REMINGTON MODEL 870 หมายเลขทะเบียนปืน หมวดอักษรเลอะเลือน 2073501 จำนวน 1 กระบอก 2. นายจักรินทร์ พุ่มเพ็ชร อายุ 49 ปี ชาว ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี พร้อมของกลางท่อนเหล็ก ขนาด 1 นิ้ว ความยาว 2 เมตร 30 เซนติเมตร จำนวน 1 อัน และ 3. นายนิพนธ์ แย้มขยาย อายุ 32 ปี ชาว ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี พร้อมของกลางกรวยยางสีส้ม จำนวน 1 อัน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 รายหลัง ถูกตั้งข้อหา "เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่น" ก่อนนำตัวสอบสวนและฝากขังต่อไป

...

จากการสอบถามถึงปมในการก่อเหตุครั้งนี้ ทราบว่า เดิมที บริษัท ราชบุรี เพาเวอร์ จำกัด ได้ว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยบิลเลี่ยนการ์ด แต่เนื่องจากครบกำหนดสัญญา 2 ปี ทำให้บริษัทรักษาความปลอดภัย HRPRO เข้ามาประมูลงานต่อ และเริ่มทำงานในวันที่ 1 ม.ค.67 แต่เดิมจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จำนวน 21 คน โดยมี นายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุ เป็นหัวหน้าชุด รปภ. แต่เมื่อบริษัทรักษาความปลอดภัย HRPRO ประมูลงานได้ ทำให้ นายบุญเลิศ ถูกลดตำแหน่งจากหัวหน้าชุด รปภ.มาเป็น รปภ.ธรรมดา แต่ยังจ้าง รปภ.ชุดเดิมทั้ง 21 คน อยู่ทั้งหมด

ต่อมา บริษัทรักษาความปลอดภัย HRPRO ได้ส่งทีมบริหารชุด รปภ.มา 6 คน ประกอบด้วย 1. นายชาคริต นาคประดิษฐ์ (ผู้เสียชีวิต) ตำแหน่งผู้จัดการฝ่าย 2. นายชนรพ ผาดี (ผู้เสียชีวิต) รองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ 3. นายพิเชษฐ์ เหลืองละมัย (ผู้เสียชีวิต) ครูฝึก รปภ. 4. นายประโลม ลอยอำแพง (พยานเห็นเหตุการณ์) จนท.สายตรวจ (คุม รปภ.) 5. นายสาธิต มีวงศ์ (ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส) ผู้จัดการประจำไซต์งาน และ 6. นายฉัตรชัย เย็นนิกร (ผู้บาดเจ็บเล็กน้อย) สรรหาบุคคล โดยทั้ง 6 คน มีปัญหากระทบกระทั่งต่อเนื่องกันมากับ นายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุ และทีม รปภ.ชุดเก่า อันเนื่องมาจากการตั้งกฎระเบียบใหม่ รวมทั้งจะมีการลดตำแหน่งของ นายบุญเลิศ และมีการพูดในลักษณะที่ว่า "ถ้าทำไม่ได้ก็ลาออกไป" อันเป็นการสร้างความขุ่นเคืองให้แก่ นายบุญเลิศ และทีม รปภ.ชุดเก่า อย่างยิ่ง

จนวันเกิดเหตุ นายประโลม หนึ่งในทีมบริหารชุด รปภ. 6 คน ได้เรียกประชุม รปภ.ทั้งหมด ในเวลาประมาณ 18.30 น. วันเกิดเหตุ โดยมีชุดบริหารทั้ง 6 คน และนายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุ เข้าร่วมประชุมด้วยทั้งหมด ในระหว่างการประชุมมีปัญหาเรื่องการปรับลดตำแหน่งและค่าแรงของ นายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุ โดยจะปรับลดตำแหน่งให้เหลือเป็นเจ้าหน้าที่ รปภ. และตัดลดค่าตำแหน่ง และในขณะนั้นเกิดมีคนพูดว่า "หักแค่ 150 บาท จะมีปัญหาอะไรกันนักหนา" จนมีการพูดจากระทบกระทั่งกัน ทำให้ นายบุญเลิศ เกิดความโมโห จึงลุกเดินออกไปนอกห้องประชุม เพื่อไปนำอาวุธปืนที่อยู่ในรถยนต์มาก่อเหตุลักษณะดังกล่าว โดยมีกลุ่ม รปภ.ที่ร่วมกระทำความผิดอีก 3 ราย ร่วมสนับสนุนในการก่อเหตุดังกล่าว