ผู้การ 5 เผยกรณีการเสียชีวิตของ "น้องโยโกะ" พริตตี้รถแบรนด์ดัง หลังญาติติดใจผลชันสูตร พบไซยาไนด์ในเลือด ยันค้นห้องพักในคอนโด เจอขวดไซยาไนด์ และยากล่อมประสาทที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้าอยู่ภายในตู้เซฟ ขณะที่ในมือถือ มีการพิมพ์ข้อความในโน้ต สั่งลาเพื่อนชาย

กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.พราวรวี สหัสธัชพงศ์ หรือน้องโยโกะ พริตตี้รถแบรนด์ดัง ซึ่งครอบครัวได้ส่งศพชันสูตรที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยตรวจคัดกรองยาและสารเสพติดในเลือด โดยวิธีแก๊สโครมาโทกราฟี พบไซยาไนด์ปริมาณ 1.26 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ทำให้ครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงว่าอาจไม่ได้มาจากการจบชีวิตตัวเองนั้น

ต่อมา เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2567 ที่ สน.คลองตัน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5.เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.45 น.วันที่ 1 พ.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน ตรวจสอบที่ห้องที่เกิดเหตุ พบผู้ตายนอนห่อผ้าครึ่งตัว มีน้ำลายเป็นฟองออกที่ปาก จึงได้สันนิษฐานตามหลักวิชาศาสตร์ว่าผู้ตายได้ดื่มยาพิษเข้าไป 

จากนั้นได้มีการสอบถามจากข้อมูลจากญาติและแฟนของผู้ตายว่า ผู้ตายได้มีการนัดไปทานอาหารที่บ้านของเพื่อนแฟนที่ย่านเอกมัยเหนือ ในวันที่ 30 ต.ค. โดยออกจากห้องพักเวลา 23.45 น. โดยขับรถไปเพียงลำพังไม่ได้มีใครมารับ และอยู่ที่งานเลี้ยงกับเพื่อนชาย จนถึงเวลา 02.00 น.ของวันที่ 31 ต.ค. โดยเจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่าระหว่างที่ผู้ตายอยู่ในงานเลี้ยง ได้เกิดน้อยใจเพื่อนชายที่มีครอบครัวอยู่แล้ว เนื่องจากครอบครัวโทรมาตาม จากนั้นผู้ตายจึงได้แยกย้ายมาที่ห้องพักเวลา 06.42 น.โดยขับรถกลับมาเพียงคนเดียว 

...

และจากการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ตาย เวลา 08.56 น.มีการพิมพ์ข้อความในโน้ต สั่งลาเพื่อนชาย ทำนองว่าให้เพื่อนชายใช้ชีวิตอย่างปกติ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในคอนโด ก็ไม่พบว่าผู้ตายได้ออกไปไหนเลย จนมาถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 พ.ย. เพื่อนชายของผู้ตายพยายามติดต่อผู้ตาย แต่ติดต่อไม่ได้ จึงได้มาที่คอนโด แต่ก็ไม่สามารถขึ้นไปที่ห้องได้ เนื่องจากเพื่อนชายไม่มีคีย์การ์ด เลยนั่งรอที่ล็อบบี้แล้วพยายามโทรติดต่อกับผู้ตายตลอด จนถึงเวลา 04.00 น. ยังติดต่อไม่ได้จึงกลับไป แต่ก็ได้ ประสานกับญาติให้มาช่วยดู ญาติของผู้ตายจึงได้เดินทางมาเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 1 พ.ย. และให้นิติอาคารใช้คีย์การ์ดพาขึ้นไปยังห้อง และใช้รหัสเปิดประตูห้องของเพื่อนชาย เปิดเข้าไปจึงพบว่าผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ในห้อง  

จากนั้นได้แจ้งหมอนิติเวชร่วมตรวจที่เกิดเหตุ และหลังจากนั้นต่อมา เจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าตรวจค้นห้อง โดยมีคุณแม่ของผู้ตายร่วมอยู่ด้วย พบว่าภายในตู้เซฟมีขวดไซยาไนด์อยู่ 1 ขวด และยากล่อมประสาทที่ใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้าอยู่จำนวนหนึ่ง จึงได้ส่งตรวจที่ หน่วยพิษวิทยา ของสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ 

ผลตรวจเบื้องต้นพบว่า ผู้ตายมีไซยาไนด์ ในเลือดปริมาณ 1.26 ไมโครกรัม ต่อ มิลลิลิตร คาดว่าถ้ารับสารพิษเข้าไปในปริมาณขนาดนี้จะเสียชีวิตภายใน 30 นาที ในส่วนของประตูด้านหลังที่ติดกับสระว่ายน้ำ ไม่มีกล้องวงจรปิด ที่ญาติผู้ตายสงสัยว่าไม่ได้มีการล็อก เจ้าหน้าที่ได้ตรวจลายนิ้วมือแล้วพบว่ามีเพียงลายนิ้วมือของผู้ตายเพียงคนเดียว และญาติยังสงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไม่เข้าตรวจที่เกิดเหตุในวันนั้นเลย ได้สอบถามกับพนักงานสอบสวนเล่าว่า ได้รับทราบข้อมูลจากญาติว่าตัวผู้ตายเอง มีประวัติการรักษาอาการป่วยซึมเศร้าตั้งแต่ เดือน ก.ย.65 จนถึง ก.ย.66 จึงมีความเชื่อโดยสุจริตใจว่า ผู้ตายได้กระทำตนเองโดยกินยาเกินขนาดเข้าไป 

ในส่วนของ ที่ญาติของผู้ตายมีข้อสงสัยในเรื่องรอยช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบเป็นภาพที่อยู่ในโทรศัพท์ เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือน ก.ย.66 โดยน่าจะเกิดจาก การน้อยใจเพื่อนชายที่มีครอบครัวอยู่ และมีปากเสียงกัน เนื่องจากอยากให้อีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการตั้งชุดทำงานสืบสวน เพื่อหาข้อมูลว่าผู้ตายได้ซื้อไซยาไนด์ มาอย่างไร เพื่อให้ได้ความกระจ่างในภายหลัง แต่หากญาติผู้ตายยังมีข้อสงสัยในประเด็นใด เจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะชี้แจงเพื่อคลายข้อสงสัยทีละประเด็น