เพื่อนบ้านโหด เหม็นขี้หมู ลากปืนลูกซองยาว 5 นัด ยิงสองผัวเมียเจ้าของฟาร์ม ดับอนาถ ก่อนไปยิงตัวเองตายในสวนปาล์มหลังบ้านพ่อ เผยขณะเกิดเหตุ ลูกชายเจ้าของฟาร์ม ทั้ง 2 คน ไม่อยู่ในบ้าน ออกไปเที่ยวงานวันเด็กพอดี...

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2567 ร.ต.อ.วินัย ขวัญทองอินทร์ รอง สว.สอบสวน สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุคนยิงกันมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บนถนนสายบ้านบ่อไคร-ยางเสียน ม.8 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร จึงรายให้ผู้บังคับบัญชาให้ได้ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กิตติพงศ์ เทพหนู ผกก.สภ.ทุ่งตะโก, พ.ต.ท.สานิส หนูคง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ทุ่งตะโก, พ.ต.ต.ชูศักดิ์ ทัศนภูมิ สว.สืบสวน สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ทุ่งตะโก และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน 

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพ นายกลยุทธ ศรีภักดี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 ม.8 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร นอนเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นปาล์มน้ำมัน ภายในสวนหลังบ้านของ นายจรัญ ศรีภักดี อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 ม.8 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ในสภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ ข้างศพด้านซ้าย พบอาวุธปืนลูกซองยาว ขนาด 5 นัด ตกอยู่ โดยสภาพศพบริเวณหน้าผากเป็นรูกระสุนทะลุออกศีรษะเปิดสมองกระจาย 

...

สอบถามนายจรัญ เจ้าของบ้าน และเป็นผู้เป็นพ่อผู้ตาย ทราบว่า คนตายลูกชายตนเอง ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้ขับรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขขย 624 ชุมพร ในมือถืออาวุธปืนลูกซองมาด้วย แล้วมาจอดที่ข้างบ้าน แล้วเดินมาบอกว่าตนว่า “พ่อผมได้ยิงนายประยูรและนางลัดดา เจ้าของฟาร์มหมูตายแล้ว ผมขอฝากเมียและลูกด้วย” หลังจากนั้นก็เดินไปหลังบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงดังลั่นขึ้นมา 1 นัด จึงวิ่งออกไปดูก็พบว่า ลูกชายตนใช้อาวุธปืนลูกซองที่ถือว่า เดินเข้าไปในสวนปาล์มหลังบ้านยิงตัวตายแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุอีกจุดอยู่ห่างออกไปเพียง 1 กม. ซึ่งอยู่หมู่บ้านและตำบลเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟสีดำ หมายเลขทะเบียน ขกจ 440 ชุมพร อยู่ในสภาพล้มพลิกอยู่ข้างไหล่ทางริมถนน ใกล้กันพบปลอกกระสุนลูกซองตกอยู่บนพื้น 1 ปลอก ห่างไปเพียงเล็กน้อย พบปลอกกระสุนตกอยู่บนถนนอีก 1 ปลอก ซึ่งทั้งรถจยย.และปลอกกระสุนที่พบอยู่หน้าบ้านของ นายกลยุทธ์ ที่ยิงตัวตายศพแรกพอดี 

ส่วนในพงหญ้าใกล้กับ รถจยย.ที่ล้มอยู่ พบศพนายประยูร มณีราย อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.8 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร อยู่ในสภาพนอนคว่ำจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตสก๊อต กางเกงขายาวสีครีม ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าบริเวณด้านหลังเป็นรูขนาดใหญ่ และยังมีรูกระสุนเจาะเป็นรูพรุนนับ 10 รู กระสุนทะลุออกกลางแผ่นหลังเป็นรูขนาดใหญ่ แขนด้านซ้ายเป็นถูกคมกระสุน เป็นแผลฉกรรจ์  

ส่วนอีกศพ ทราบชื่อคือ นางลัดดา มณีราย อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายประยูร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณชายโครงด้านซ้าย 1 นัด และลูกชายได้นำพาส่งโรงพยาบาลทุ่งตะโก และเสียชีวิตระหว่างทาง โดยในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดที่หลงเหลือที่ใต้ถุนซึ่งเป็นห้องโถง 

จากการตรวจสอบบริเวณหน้าบ้าน พบปลอกกระสุนลูกซองตกอยู่ที่ใกล้คอกไก่ จำนวน 3 ปลอก และบริเวณหน้าบ้านใกล้กับที่ถูกยิงจมกองเลือดอีก 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บและรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สาเหตุเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า นายกลยุทธ์ ผู้ก่อเหตุได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นขี้หมูมานาน แม้จะเคยไกล่เกลี่ยกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังต้องอยู่กับกลิ่นขี้หมูอยู่ตลอดจนอดรนทนไม่ไหว เห็นนายประยูร ขับรถ จยย.ผ่านมาทางหน้าบ้าน จึงนำอาวุธปืนออกมาดักรออยู่ศาลาหน้าบ้านตนเอง จนกระทั่งนายประยูรขับรถมาจึงได้ออกไปพร้อมกับเรียกให้จอด แล้วใช้อาวุธปืนลูกซองไล่ยิงจนรถ จยย.ล้มคว่ำ ส่วนนายประยูรกระเด็นตกไปในพงหญ้าข้างทาง 

...

จากนั้นนายกลยุทธได้วิ่งไปที่บ้านของนายประยูร และพบกับนางลัดดา จึงใช้อาวุธปืนกลูกซองกระบอกเดียวกันยิงใส่นางลัดดาเสียชีวิตอีกศพ จากนั้นได้เดินกลับมาที่บ้านตนเองแล้วขับรถ จยย.พร้อมอาวุธปืนลูกซอง ขับไปที่บ้านนายจรัญ ผู้เป็นพ่อ และได้สั่งเสียฝากลูกเมีย แล้วเดินไปในสวนปาล์มปลิดชีพตัวเองเพื่อหนีปัญหา

ด้าน นายพงษ์พัฒน์ มณีราย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.8 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก ลูกชายผู้ตายทั้งสองศพที่เป็นสามีภรรยากัน ทราบว่าเมื่อช่วงเช้า นายประยูรผู้เป็นพ่อได้ขับรถ จยย.ออกไปทำธุระข้างนอกบ้าน ส่วนตนและน้องชาย ได้ออกไปเที่ยวงานวันเด็ก ที่ อบต.ทุ่งตะไคร โดยมีนางลัดดาผู้เป็นแม่อยู่บ้านเพียงลำพัง จนกระทั่งประมาณ 11 โมงเศษ น้องชายได้โทรมาบอกว่า แม่ขับรถ จยย.ล้ม เพราะเห็นเพียง จยย.เท่านั้นที่ล้มอยู่บนถนนที่เกิดเหตุ และน้องก็ได้จูงรถ จยย.กลับมาที่บ้าน และก็มาพบว่าแม่นอนฟุบจมกองเลือดภายในห้องโถงใต้ถุนบ้าน จึงรู้ว่าแม่ถูกยิง ได้รีบนำแม่ ส่ง รพ.ทุ่งตะโก แต่ไม่ทันแม่เสียชีวิตระหว่างทาง

นายพงษ์พัฒน์ ยังบอกอีกว่า สำหรับมูลเหตุในครั้งนี้นั้น น่าจะมาจากเรื่องก่อนหน้านี้ ที่นายกลยุทธ์ ได้ใช้อาวุธปืนมายิงขู่ที่หน้าบ้าน เนื่องจากบ้านตนมีอาชีพทำฟาร์มเลี้ยงหมู และคอกหมูได้สร้างอยู่ด้านหน้าติดกับริมถนน และยังอยู่เยื้องกับบ้านนายกลยุทธ์ มือปืนที่ก่อเหตุยิงพ่อแม่ของตน ซึ่งห่างกันเพียงถนนกั้นกลาง ทำให้นายกลยุทธ์ได้มาโวยวายและยิงปืนขู่ โดยอ้างว่าเหม็นขี้หมู ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 3 ปีแล้ว จนต้องขึ้นโรงพักกันมาครั้งหนึ่งแล้ว ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์รุนแรงในวันนี้อีก

ส่วนนายสมศักดิ์ เทียมราช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บอกว่า ตนเองเองเคยนำทั้งสองมาไกล่เกลี่ยปัญหามาแล้ว ซึ่งทั้งสองก็ยอมกันไป และตนก็ได้นำรถมาขุดเป็นบ่อพักขี้หมูเพื่อไม่ให้ไหลออกไปริมทาง จะได้ไม่สร้างความรำคาญความเป็นอยู่ของเพื่อนล้อมข้าง แต่ไม่คิดว่า เรื่องนี้จะกลับมาปะทุขึ้นจนถึงขั้นก่อเหตุยิงกันตาย

...

ด้านนางเสนียม มณีราย อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 1 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นแม่ของนายประยูร เจ้าของฟาร์มหมูที่ถูกยิงตายพร้อมเมีย บอกว่า แม่เองรู้เพียงว่าทั้งสองฝ่ายเกิดการทะเลาะเพียงครั้งเดียว แต่ไม่คิดว่าลูกชายมาตายเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง 

หากถามว่า ลูกชายเคยมาบอกกล่าวหรือปรึกษาหรือเล่าให้ฟังหรือเปล่านั้น ยอมรับว่า ลูกชายเป็นคนเงียบๆ ขยันทำงาน ไม่ค่อยจะพูดอะไรให้แม่ไม่สบายใจสักครั้ง อีกทั้งผู้ตายทั้งสองฝ่ายก็เป็นญาติกันอีกด้วย เรื่องเพียงแค่นี้น่าจะคุยกันได้ไม่ต้องถึงขั้นฆ่ากันตาย.