หัวหน้า รปภ.โหด เคลียร์ลูกน้องเรื่องเงินเดือนไม่ลงตัว จนบานปลายเกิดทะเลาะ ชักปืน 9 มม. ยิงดับ 3 เจ็บ 2 คาป้อมยามรักษาการณ์โรงงานไฟฟ้า ก่อนเร่งขับปิกอัพหลบหนี


เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 12 ม.ค. 67 ร.ต.อ.ไพรวัลย์ ปี่แก้ว รองสว.สอบสวน สภ.ดำเนินสะดวก ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกอาวุธปืนยิง จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหลายราย ภายในโรงงานไฟฟ้าแห่งหนึ่ง เขต อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี และผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมจนท.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี, จนท.ชุดสืบสวน สภ.ดำเนินสะดวก, แพทย์เวรรพ.ดำเนินสะดวก และจนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี 


ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 3 รายในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือ นายพิเชษฐ์ เหลือมละไล อายุ 55 ปี, นายชนรพ  ผาดี อายุ 50 ปี และนายชาคริต นาคประดิษฐ์ อายุ 52 ปี สภาพศพนอนเสียชีวิตในป้อมยามรักษาการณ์ 2 นาย และบนพื้นถนนตรงประตูทางเข้า B นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย โดยทางจนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี ได้รีบนำตัวส่งรักษารพ.ดำเนินสะดวกเป็นการเร่งด่วน โดย นายสาธิต มีวงศ์ อายุ 50 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน ซึ่งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมด เป็นจนท.รปภ.ประจำโรงงานไฟฟ้า ส่วนมือยิงทราบชื่อต่อมาคือ นายบุญเลิศ สายสิทธิ์ อายุ 49 ปี เป็นหัวหน้ารปภ.ประจำโรงงานไฟฟ้า หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน บว 8688 ราชบุรี หลบหนีไป

...


แต่ต่อมาทางจนท.ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ราชบุรี และจนท.ชุดสืบสวน สภ.ดำเนินสะดวก ได้สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาได้ ก่อนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อสอบปากคำและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดย นายบุญเลิศ ได้ให้การว่า ได้เรียกผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นรปภ.ที่ทางสาขาใหญ่จากกรุงเทพฯ ส่งตัวมาปฏิบัติงานที่โรงงานไฟฟ้า เพื่อประชุมชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนแล้วตกลงกันไม่ลงตัว และเกิดทะเลาะกันจนบันดาลโทสะ ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ไล่ยิงผู้ตายและผู้บาดเจ็บไปหลายนัด จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะขับรถยนต์หลบหนีไป


ซึ่งทางจนท.ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การ จึงได้เปิดกล้องวงจรปิดภายในจุดเกิดเหตุดู จนทราบว่ายังมี นายดำ ได้ถืออาวุธปืนยาว ยืนคุมเชิงเพื่อให้ นายบุญเลิศ ก่อเหตุ โดยหลังก่อเหตุทั้งคู่ได้แยกกันขับรถหลบหนี ซึ่ง นายดำ ได้ขับรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน ผก 9380 ราชบุรี หลบหนีไป จนต่อมาทางจนท.ตำรวจได้สืบทราบว่า นายดำ ได้ขับรถกระบะหลบหนีไปที่บ้านภรรยาซึ่งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้า 3 กม. จึงนำกำลังจนท.ชุดปฏิบัติการพิเศษ ติตตามไปควบคุมตัว นายดำ มาสอบสวน แต่เมื่อไปถึงบ้านภรรยาของ นายดำ พื้นที่หมู่ 7 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี กลับพบเพียงแต่รถกระบะที่ นายดำ ขับหลบหนีมา แต่ตัวไม่อยู่ภายในบ้าน เมื่อสอบถามภรรยาของ นายดำ ได้ให้ข้อมูลว่า นายดำ ได้ขับรถมาจอดอย่างเร่งรีบ และได้ออกจากบ้านไปทันทีโดยไม่บอกอะไรเพิ่มเติม 


ขณะที่ นายบี (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนของ นายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า นายบุญเลิศ ทำงานเป็นหัวหน้ารปภ.ที่นี่มานานกว่า 16 ปี และไม่เคยมีปัญหากับใคร เป็นคนขยันทำงาน ใจเย็นไม่ใจร้อน พอทราบข่าวก็รู้สึกตกใจและเป็นห่วง ว่าเรื่องอะไรทำไม นายบุญเลิศ ถึงคิดสั้นยิงลูกน้องจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุการก่อเหตุตนไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นเรื่องอะไร เพราะตนก็เพิ่งออกจากงาน รปภ. มาได้ 3 เดือน และช่วงที่ยังทำงานอยู่ นายบุญเลิศ ก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง


เบื้องต้นทางจนท.ตำรวจ ได้กั้นพื้นที่โรงไฟฟ้า ที่เป็นเขตหวงห้าม ห้ามบุคคลภายนอกเข้า เพราะต้องให้ทางจนท.พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพื้นที่และกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และเร่งติดตามจับกุมตัว นายดำ ซึ่งเป็นผู้ถือปืนยาวยืนคุมเชิง ให้ นายบุญเลิศ ก่อเหตุ มาสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อม นายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ตลอดจนต้องสอบปากคำผู้บาดเจ็บ และพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อหาสาเหตุและชนวนการก่อเหตุที่แท้จริงต่อไป.

...