ตำรวจยังมืดเหตุคนร้ายฆ่าโหดชายนิรนาม ฟันหน้า รัดคอ นำโซ่มัดมือไพล่หลัง แล้วห่อศพอำพรางทิ้งในป่าละเมาะใกล้คลองชลประทาน แหล่งท่องเที่ยวแก้มลิงหนองใหญ่ จ.เพชรบุรี
กรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนฆ่าโหด ใช้ของมีคมฟันใบหน้ายับเป็นแผลลึกฉกรรจ์ 4 แผล ใช้ผ้าคลุมหัวมัดคอด้วยสายไฟ มัดมือไพล่หลังด้วยโซ่ แล้วห่อศพด้วยผ้าห่มกับเสื่อมัดหัวท้าย นำไปโยนทิ้งไว้ในป่าละเมาะใกล้ริมถนนคลองประทานหัววัง-พนังตัก แหล่งท่องเที่ยวแก้มลิงหนองใหญ่ พื้นที่หมู่ 8 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร และมีชาวบ้านไปพบ แจ้งตำรวจเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาเบาะแส และได้พบกับ นายสุนันท์ วิชาศาสตร์ อายุ 58 ปี คนเลี้ยงวัว ที่ได้นำวัวมาเลี้ยงอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ เล่าว่า โดยปกติตนเลี้ยงวัวและพามากินหญ้าจุดพบศพอยู่เป็นประจำทุกวัน เช้าวันเกิดเหตุตนก็ได้นำวัวมาเลี้ยงตามปกติ และขับขี่รถจักรยานยนต์วิ่งคอยดูวัวกินหญ้าและกินน้ำที่คลองชลประทาน
...
นายสุนันท์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าช่วงเช้ายังไม่เห็นห่อศพดังกล่าว แต่ช่วงเย็นตนเห็นมีวัตถุลักษณะต้องสงสัยห่อเสื่อวางอยู่ในป่าละเมาะริมทาง ห่างจากริมถนนประมาณ 30 เมตร จึงเข้าไปดูพบว่ามีกลิ่นเหม็นโชยไปทั่ว และแมลงวันตอมจำนวนมาก จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปบอกกับสองสามีภรรยาที่เป็นจิตอาสามาเก็บขยะที่แหล่งท่องเที่ยวใกล้จุดเกิดเหตุ บอกให้เข้าไปดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ และพบเป็นศพถูกห่อนำมาทิ้งไว้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผลจากการชันสูตรศพอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานในจุดเกิดหตุ พบว่าสภาพศพผู้ตายที่ลำคอถูกมัดด้วยเชือกไนลอนสีดำจนลิ้นจุกปาก ที่ศีรษะคลุมด้วยเสื้อแจ็กเก็ตคอปกแขนยาวสีกรมท่าเข้ม ที่หน้าอกเสื้อและกลางหลังปักตัวอักษรว่า “วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี” แล้วใช้สายไฟมัดพันไว้ ส่วนมือทั้ง 2 ข้างถูกไพล่หลังมัดพันไว้ด้วยโซ่ล่ามสุนัขยาวประมาณ 1.5 เมตร แล้วห่อศพด้วยผ้าห่มนวม พันทับด้วยเสื่ออีก 1 ชั้น โดยใช้เชือกไนลอนมัดหัวมัดท้าย ก่อนนำมาโยนทิ้งอำพรางที่บริเวณดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวถึงคดีว่า ผลการตรวจสอบยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร ตอนนี้ระบุได้เพียงว่าเป็นชายไม่ทราบสัญชาติ มีอายุประมาณ 40-45 ปี วันนี้ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง เพื่อเก็บหลักฐานอย่างละเอียด และยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นคนในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ พร้อมทั้งประกาศหาบุคคลสูญหายในจังหวัดชุมพรและจังหวัดใกล้เคียงตามหาญาติ และจะสืบสวนหาสาเหตุการตายกันต่อไป