ญาติติดต่อรับศพเสี่ยหนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังถูก รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ยิงเสียชีวิต บนทางด่วน อยากถาม “ทำทำไม ทำไปเพื่ออะไร” ยอมรับกังวลจะได้รับการประกันตัว อยากให้ได้รับโทษประหารชีวิตเท่านั้น

จากกรณี เกิดเหตุ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ยิงนักธุรกิจหนุ่มเสียชีวิตอย่างอำมหิต บนทางด่วนฉลองรัช กม.10 เหนือถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ ก่อนชิงเอารถคนตายเป็นรถตู้ฮุนได เอช 1 สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ขับหลบหนีไป เหตุช่วงกลางดึกคืนวันที่ 29 ธ.ค. 66 

ต่อมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถติดตามเข้าจับกุม ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา ผู้ก่อเหตุได้แล้ว

โดยรายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำ ทราบว่า ผู้ตายมีปัญหาหนี้สินในระบบ 2 ล้านบาท จากการกู้ไปลงทุนทำธุรกิจแล้วเจ๊ง จากนั้นก็ได้รู้จักกับผู้ตายแล้วคอยทำงานเป็นคนขับรถให้ผู้ตาย ทำงานมาประมาณ 5 เดือน ระหว่างทำงานถูกหลอกว่าจะเคลียร์หนี้ให้ หลอกว่าจะวิ่งเต้นตำแหน่งให้ แต่ถึงขนาดนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จนมาในวันเกิดเหตุ ตัวผู้ก่อเหตุได้มีการขับรถให้กับผู้ตาย และเกิดมีปากเสียงรุนแรงเกิดขึ้นในระหว่างขับขี่ เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าถูกผู้ตายหลอกใช้ จึงเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น 

...

เบื้องต้นขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำในรายละเอียดเพิ่มเติมว่าจะมีสาเหตุอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ รวมถึงยังไม่มีผู้บังคับบัญชาระดับสูง ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่สามารถให้ข่าวได้ ออกมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนที่เฝ้ารออยู่บริเวณหน้าห้องสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 ธันวาคม 2566 ที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ น.ส.จิราภัทร ศรุวรานนต์ (แม่) น.ส.ศิริรัตน์ ศรุวรานนต์ (อดีตภรรยา) อายุ 33 ปี มีลูกด้วยกันแล้ว 2 คน แต่เลิกรากันไปแล้ว เดินทางมาทำเอกสารติดต่อขอรับศพนายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ อายุ 30 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดศิริเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

น.ส.จิราภัทร กล่าวทั้งน้ำตาว่า ปมที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากที่นายตำรวจคนที่ก่อเหตุคนนี้ ขอให้ลูกชายช่วยชดใช้หนี้สินทั้งหมดให้เขา แต่ทางลูกชายไม่รับปาก และไม่ทำให้ เนื่องจากจำนวนเงินหนี้มันมากเกินไป ลูกชายจึงช่วยเหลือได้แค่ให้เขาทำงานเก็บเงิน แล้วไปชดใช้หนี้สินเอง แต่ทางผู้ก่อเหตุก็ยังคอยอ้อนวอนให้ลูกชายช่วยเหลือตามที่เขาขอ แต่ทางลูกชายก็ยังคงยืนยันคำเดิม ผู้ก่อเหตุจึงน่าจะโกรธและลงมือก่อเหตุดังกล่าวกับลูกชาย 

ส่วนตัวมองว่ามันเกินไปหรือไม่ ให้ลูกชายชดใช้หนี้สิน ทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเอง อยากถามมากว่าเขาทำแบบนี้ได้ยังไง ทำแบบนี้เท่ากับเขาทำลายครอบครัวคนอื่นไปหมดเลย ลูกชายเป็นนักธุรกิจ เป็นเสาหลักของครอบครัว ขาดเขาไปแล้วครอบครัวก็แย่กันหมด 

ถ้าหากตนเองได้เจอหน้าคนก่อเหตุ อยากถามเขามากเลยว่า “ทำทำไม ทำไปเพื่ออะไร” ตอนนี้กังวลกลัวว่าเขาจะได้รับการประกันตัว สิ่งที่ต้องการตอนนี้อยากให้เขาได้รับโทษคือประหารชีวิตเท่านั้น