คุมตัวผู้หมวดหนุ่ม สน.หัวหมากสอบเครียดหลังกระหน่ำยิงนายจ้างนักธุรกิจดับคาทางด่วน เผยผู้ต้องหาทำธุรกิจเจ๊งมารับจ้างขับรถหารายได้นอกเวลางาน แค้นที่ผู้ตายรับปากจะช่วยหลายเรื่อง แต่ไม่ช่วย เหมือนตัวเองถูกหลอกใช้
จากกรณี เกิดเหตุ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ยิงนักธุรกิจหนุ่มเสียชีวิตอย่างอำมหิต บนทางด่วนฉลองรัช กม.10 เหนือถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ ก่อนชิงเอารถคนตายเป็นรถตู้ฮุนได เอช 1 สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ขับหลบหนีไป เหตุช่วงกลางดึกคืนวันที่ 29 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมานั้น
เวลา 09.30 น. วันที่ 30 ธ.ค. 66 พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า หลังเกิดเหตุครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้มาที่เกิดเหตุพร้อมให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ผู้เสียชีวิตทำธุรกิจส่วนตัว และรถตู้ที่ผู้ก่อเหตุขับรถหนีไปก็เป็นรถของผู้เสียชีวิตเอง ส่วนผู้ก่อเหตุ คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ว่างเว้นจากการปฏิบัติราชการ ได้ไปรับจ้างทำหน้าที่ขับรถ
ขณะที่พยานทั้ง 3 คน พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ได้เชิญตัวไปสอบสวนเพื่อสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดแล้ว ส่วนวัตถุพยานสำคัญ โทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต ขณะนี้อยู่กับพนักงานสอบสวนแล้วจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ขณะเดียวกันยังมีวัตถุพยานสำคัญที่ได้จากที่เกิดเหตุด้วย คือ ปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 6 ปลอก ทรัพย์สินผู้เสียชีวิตพบเงินสด 56,000 บาท นาฬิกาข้อมือ แหวนทองคำรูปพรรณและสร้อยพระ ซึ่งตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานทางคดี
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถติดตามเข้าจับกุม ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา ผู้ก่อเหตุ ที่บริเวณห้องพักรายวัน มันนี่โฮม ย่านดอนเมือง พร้อมรถยนต์ของผู้เสียชีวิต จึงคุมตัวไปสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ตั้งแต่ช่วงเช้า เบื้องต้นมีข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเคยถูกผู้เสียชีวิตชักชวนไปหารายได้พิเศษ ช่วยขับรถยนต์ช่วงที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ชัดเจนในเรื่องสาเหตุการลงมือก่อเหตุ
...
ต่อมาเวลา 10.40 น. ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น และ พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.วังทองหลาง มาร่วมสอบปากคำ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีปัญหาหนี้สินในระบบ 2 ล้านบาท จากการกู้ไปลงทุนทำธุรกิจแล้วเจ๊ง จากนั้นก็ได้รู้จักกับผู้ตายแล้วคอยทำงานเป็นคนขับรถให้ผู้ตาย ทำงานมาประมาณ 5 เดือน ระหว่างทำงานถูกหลอกให้ว่าจะเคลียร์หนี้ให้ หลอกว่าจะวิ่งเต้นตำแหน่งให้ แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จนมาในวันเกิดเหตุ ตัวผู้ก่อเหตุได้ขับรถให้กับผู้ตาย และเกิดมีปากเสียงรุนแรงเกิดขึ้นในระหว่างขับ เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าถูกผู้ตายหลอกใช้ จึงก่อเหตุขึ้นดังกล่าว
เบื้องต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำในรายละเอียดเพิ่มเติมว่าจะมีสาเหตุอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และยังไม่มีผู้บังคับบัญชาระดับสูง ออกมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนที่เฝ้ารออยู่บริเวณหน้าห้องสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4