โจรสาวแสบฉกทองห้างดัง 3 วัน 3 ร้านในเมืองบุรีรัมย์ ทำทีมาเลือกดู ก่อนเดินชิ่งหนี โดยเน้นร้านที่เจ้าของสูงวัยนั่งขายคนเดียว หลังลงมือเสร็จขับรถหนีแบบรู้เส้นทางอย่างดี ซึ่งอาจจะเป็นไรเดอร์เก่า ขณะที่ตำรวจชุดสืบ ไล่ตามกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี คาดได้ตัวเร็วๆ นี้
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 66 จากกรณีหญิงสาวอายุประมาณ 25-30 ปี เข้าไปทำทีซื้อทองหนักสองบาทในร้านทองชื่อ "ห้างทองแก้วเยาวราช สาขา 1" ถนนสุนทรเทพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มาเลือกทองสร้อยข้อมือภายในร้านเส้นละ 1 บาทจำนวน 2 เส้น คิดเป็นเงิน 70,000 บาทสบโอกาสเดินออกจากร้านขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยนายสมศักดิ์ มงคลเกษตร อายุ 73 ปี เจ้าของร้านเดินตามไปดูแต่ไม่ทัน
จากภาพวงจรปิดที่พบคาดว่าหญิงคนดังกล่าวน่าจะเป็นคนเดียวกับที่ไปก่อเหตุชิงทองมังกรทองเยาวราช บริเวณหน้าตลาดสดเทศบาลเมือง เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา วันนั้นได้แหวนทองน้ำหนัก 50 สตางค์ไป 1 วง และเจ้าของร้านทองอายุ 66 ปี เป็นผู้สูงอายุเหมือนกับร้านทองแก้วเยาวราชสาขา 1 ที่โดนชิงทองไป 2 บาท
นายโชคอนันต์ วงศ์วิกิจสุข อายุ 66 ปี เจ้าของร้านทองมังกรทองเยาวราชบุรีรัมย์ เล่าว่า วันนั้นหญิงซึ่งคาดว่าเป็นคนเดียวกัน มาขอดูแหวนทองหนัก 50 สตางค์ ตอนนั้นไม่คิดอะไรเพราะลูกค้าเป็นผู้หญิง ประกอบกับไม่มีพิรุธใดๆ ทำตัวสบายๆ นิ่งๆ สุดท้ายสวมแหวนแล้วเดินออกจากร้านไป จึงวานให้ร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ข้างกันไล่ตามแต่ไม่ทัน
ด้าน นายเอกรินทร์ ดัดถุยาวัตร อายุ 23 ปี ช่างซ่อมรถจักรยานข้างร้านทอง เผยว่า หลังเกิดเหตุวันนั้น เจ้าของร้านวานให้ช่วยขับรถตาม ตนในฐานะที่เป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ รู้เส้นทางในเมืองเป็นอย่างดี พยายามขับตามแต่ไม่ทันเพราะคนร้ายขับรถอย่างคล่องแคล่ว รู้เส้นทางเป็นอย่างดี “หรือเขาอาจจะมีอาชีพเป็นไรเดอร์มาก่อน”
...
ขณะที่ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่เก็บหลักฐานร้านทองที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เบื้องต้นจากการตรวจสอบรูปพรรณคนร้ายที่วงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ทั้ง 3 ร้านทองที่คนร้ายเข้าไปก่อเหตุ ในวันที่ 23, 25 และ 27 ธ.ค. ยืนยันว่าเป็นคนๆ เดียวกัน ซึ่งขณะนี้ก็พอรู้ตัวคนร้ายแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี