คนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ประกบยิงเสี่ยสวนทุเรียนด้วยเอ็ม 16 แล้วซ้ำด้วยปืนสั้นขนาด .45 ดับคาประตูรั้วหน้าบ้าน ขณะกลับจากงานเลี้ยง ฉกทอง 20 บาท ติดมือไปด้วย ตำรวจเชื่อทรัพย์สินเป็นเพียงผลพลอยได้ เพื่อเบี่ยงประเด็นสังหาร
เวลา 02.00 น. วันที่ 26 ธันวาคม 66 ร.ต.ท.สุบิน เย็นใส รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย หน้าบ้านเลขที่ 61 ม.11 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร แพทย์ รพ.ชุมพรฯ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร และเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ SUV ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ก 1178 ชุมพร จอดอยู่บริเวณด้านหน้าประตูบ้านเลขที่ 61 ม.11 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร สภาพส่วนหัวรถหันหน้าเข้าประตู ส่วนท้ายขวางอยู่บนถนนสายบ้านทุ่งเพี้ย ประตูหน้าฝั่งคนขับเปิดสุด ใกล้กันบริเวณระหว่างด้านหน้าของรถกับประตูรั้วบ้าน พบศพนายธวัช เวชสุวรรณ อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าครามแขนสั้น ทับเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น กางเกงยีนส์สีดำ อยู่ในสภาพนอนหงายจนเห็นอาวุธปืนสั้น ขนาด .22 บริเวณเอวด้านขวาของผู้ตาย
จากการชันสูตรพลิกศพนายธวัช พบถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าบริเวณศีรษะ 2 นัด บริเวณชายโครงใกล้ราวนมด้านขวาอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่ยังพบปลอกกระสุน และหัวกระสุน จำนวน 4 ปลอก โดย 2 ปลอก เป็นชนิดที่ใช้กับอาวุธสงคราม และอีก 2 ปลอก เป็นชนิดอาวุธปืนขนาด .45 ยังพบหัวกระสุนอาวุธสงครามอีก 1 หัว ฝั่งติดอยู่บริเวณฐานศาลพระภูมิ
จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตายขับรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งเพิ่งซื้อมาได้เพียงวันเดียว ออกจากบ้านไปเพื่อไปบ้านงานที่ อ.สวี จ.ชุมพร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 กม. และหลังกลับจากบ้านงานก็มุ่งตรงมาที่บ้าน ช่วงตี 1 เศษ นำรถมาจอดบริเวณหน้าบ้านแล้วลงไปเปิดประตูรั้ว คาดว่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้อาวุธปืน 2 ชนิด แอบซุ่มอยู่ในที่มืด เมื่อได้โอกาสจึงออกมาแล้วประกบชิดตัว ก่อนใช้อาวุธสงครามเหนี่ยวไกจ่อยิงจนล้ม แล้วคนร้ายอีกคนใช้อาวุธปืนขนาด .45 ยิงซ้ำเข้าบริเวณศีรษะ ก่อนหลบหนีไป ได้ปลดทรัพย์สินเป็นสร้อยคอหนัก 15 บาท พร้อมสร้อยข้อมือหนัก 5 บาท ไปด้วย
...
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร นำชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร ชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร และตำรวจชุดสืบสวน ภาค 8 ลงพื้นที่ตรวจสอบและสืบหาข้อมูลปมเหตุในการสังหารกับทางญาติผู้ตาย เนื่องจากคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามในการก่อเหตุ อีกทั้งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ในห้วงเวลาระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนวันปีใหม่ด้วย
น.ส.ชนิดาภา อายุ 39 ปี ลูกสะใภ้ผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อคืนก่อนเกิดเหตุตนนอนอยู่ที่บ้าน ซึ่งปลูกอยู่ติดกันกับบ้านนายธวัช พ่อสามี จนกระทั่งประมาณเที่ยงคืนเศษ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ครั้งแรกก็นึกว่าพ่อสามีทะเลาะกับแม่สามีเลยไม่ได้เอะใจ แต่สักพักได้ยินเสียงแม่สามีร้องตะโกนลั่น เรียกชื่อ โอม คือแฟนตน ว่าพ่อถูกยิง จึงได้วิ่งกันมาที่ประตูรั้ว ก็พบว่าพ่อหายใจรวยรินและหมดลมหายใจในเวลาต่อมา
น.ส.ชนิดาภา ลูกสะใภ้ กล่าวด้วยว่า อุปนิสัยพ่อนั้นเป็นคนดีในสายตาตน เป็นคนเอาใจเก่ง พูดเพราะ จนมีสาวแอบชอบหลายคน ซึ่งจะมาจากเรื่องนี้หรือเปล่าไม่รู้ แต่ทั้งนี้ ตัวพ่อสามีเองก็เคยมีเรื่อง มีปัญหากับคนอื่นหลายคนเช่นกัน ไม่ว่าจะเรื่องที่ดิน ที่บ้านน้ำฉา อ.สวี จ.ชุมพร จำนวน 100 กว่าไร่ ที่บางแปลงเป็นที่ตาบอด มีปัญหาเจ้าของด้านหน้าไม่ยอมให้ผ่าน พ่อสามีก็ใช้ปืนยิงท่อเขาจนแตก ที่ดินที่เขายาว อ.เมือง จ.ชุมพร ที่ขายไปแล้วได้เงินไม่ครบ ยังติดค้างอีก 8 แสน พ่อก็พยายามทวงอยู่ และอีกประเด็นคือจะเป็นการล้างแค้นกันหรือเปล่าไม่รู้ เพราะก่อนหน้าครอบครัวของพ่อสามี ตั้งแต่รุ่นพ่อ เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าคนตาย และไม่นานพ่อของพ่อสามีก็มาถูกยิงตาย และพ่อสามีเองก็ยังตกเป็นผู้ต้องสงสัย หลังมีคนในครอบครัวทางฝั่งโน้นถูกยิงแต่ไม่ตาย เรื่องนี้ผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว ทั้งหมดก็ต้องอยู่ที่ตำรวจว่าจะสามารถคลี่คลายปมการสังหารได้เร็วเพียงใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่หาข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้นได้ตั้งประเด็นในการสังหารนายธวัชไว้มี 3 ประเด็นหลัก คือ ประเด็นส่วนตัวภายในครอบครัว คือผู้ตายมักจะทะเลาะและชอบลงไม้ลงมือกับคนในครอบครัว ประเด็นผู้ตาย ชอบพกอาวุธปืน และชอบเอะอะโวยวาย ชอบชักปืนยิงในที่สาธารณะ และอีกประเด็นคือเรื่องชู้สาว เนื่องจากก่อนหน้าผู้ตายไปชอบพอกับสาวคนหนึ่ง และสาวคนดังกล่าวซึ่งมีสามีเป็นคนมีสีก็ชอบผู้ตายด้วย เนื่องจากเป็นคนรวย มีที่สวนทุเรียนนับร้อยไร่ ตัดทุเรียนแต่ละรอบจะได้เงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ประกอบกับผู้ตายเป็นคนใจถึง ควักไม่อั้นกับสาวๆ ทำให้มีสาวๆ มาติดพันจนมีปัญหาทะเลาะกับคนที่บ้าน