แจ้งจับสมาชิก อบต. และเป็นคนขับรถโรงเรียนที่เชียงใหม่ หลอกเด็กสาววัย 14 ให้หลงรัก จนยอมพลีกายให้ในห้องน้ำโรงเรียนถึงสองครั้งสองครา พ่อแม่ทราบเรื่องยืนยันเอาถึงติดคุก เชื่ออาศัยความใกล้ชิดหลอกเด็กสาวมาแล้วหลายคน
วันที่ 21 ธันวาคม 2566 นักสังคมสงเคราะห์จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดพาผู้ปกครองพร้อมลูกสาววัย 14 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง เพื่อร่วมกันสอบถามปากคำเด็ก หลังจากผู้ปกครองเข้าแจ้งความเอาผิดกับนายเกมส์ อายุ 46 ปี คนขับรถรับส่งนักเรียนที่ล่อลวงและกระทำชำเราลูกสาวมาถึงสองครั้ง ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
โดยผู้ปกครองเด็ก 14 นำหลักฐานเป็นคลิปภาพวงจรปิดของโรงเรียนมาเป็นหลักฐานสำคัญ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.14 น. วันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายเกมส์พาลูกสาวเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกันและแยกกันออกไปซึ่งภายหลังลูกสาวยอมรับภายหลังว่าถูกกระทำชำเราในห้องน้ำ
แม่ของเด็กหญิง เล่าว่า ช่วงเปิดเทอมเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งขณะนั้นลูกสาวมีอายุ 14 ปี เรียนชั้น ม.3 โรงเรียนมัธยมใน อ.สันป่าตอง ได้เริ่มขึ้นรถรับส่งนักเรียนของนายเกมส์ มีการรับส่งตามปกติ แต่พอเดือนพฤษภาคมเธอเริ่มเอะใจหลังจากเห็นพฤติกรรมที่ลูกสาวกับนายเกมส์ดูสนิทสนมมีการหยอกล้อกันมากจนผิดสังเกต แต่เมื่อถามดูลูกสาวก็บอกว่าไม่มีอะไร
ต่อมาวันหยุดในช่วงเดือนกันยายน วันนั้นลูกสาวอยู่ที่บ้านย่า บอกกับย่าว่าจะไปทำรายงานบ้านเพื่อน อ้างว่าจะให้แม่มารับที่หน้าบ้าน แต่มาทราบภายหลังว่าแอบให้นายเกมส์มารับและหายไปทั้งวัน กลับมาถึงบ้านตอนสามโมงเย็น ตนเองจึงโทรศัพท์ไปต่อว่าแต่นายเกมส์ก็อ้างว่าไปรับส่งเท่านั้นไม่มีอะไรเกินเลย ตนจึงให้ลูกสาวหยุดนั่งรถนักเรียนและไปรับไปส่งเองทุกวันเพื่อตัดปัญหาไม่ให้เจอกัน
...
“หลังจากนั้นเดือนสิงหาคม ทราบว่าลูกสาวไปโรงเรียนและขอลาป่วย โดยโกหกว่าจะให้พ่อมารับที่โรงเรียน แต่ความจริงแล้วให้นายเกมส์อ้างตัวเป็นพ่อมารับออกไป จนเปิดเทอมอีกครั้งเมื่อต้นเดือนตุลาคม เปิดเทอมได้แค่วันสองวันก็มีคนในโรงเรียนมาบอกว่าเห็นลูกสาวกับนายเกมส์กอดจูบกันในรถ แต่ที่ทำให้ตนเองยอมรับไม่ได้ก็คือเหตุการณ์ในห้องน้ำตามคลิปที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งหลักฐานที่มีอยู่ทำให้ลูกสาวยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กับนายเกมส์ โดยบอกว่าก่อนหน้านี้นายเกมส์เคยชวนเข้าไปในห้องน้ำหลายครั้ง แต่ไปแค่นั่งคุยกันยังไม่ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ กระทั่งในวันที่ 14 ธันวาคม นายเกมส์ได้ชวนไปห้องน้ำและขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยพร้อมทั้งพูดจาหว่านล้อม จนลูกสาวใจอ่อนยอมให้เพราะคิดว่าเป็นแฟนกัน โดยนายเกมส์เตรียมถุงยางอนามัยไปด้วย”
แม่ของเด็กหญิง บอกว่า หลังความจริงปรากฏ ลูกสาวไม่ยอมพูดคุยกับใคร จนกระทั่งคืนวันที่ 18 ธันวาคม ลูกสาวหนีออกจากบ้าน ตนจึงไปตามที่บ้านนายเกมส์ แต่อ้างว่าไม่ได้มาหา จนถึงเช้าวันที่ 19 ธันวาคม นายเกมส์พาลูกสาวมาส่งที่บ้าน โดยยังคงยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรลูกสาว ขณะที่ลูกสาวยอมบอกว่ามีอะไรกันมาสองครั้งแล้ว
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.สันป่าตอง ให้ดำเนินคดีกับนายเกมส์ทุกข้อหาความผิดที่เกี่ยวข้อง เพราะแม้เด็กจะเข้าหาหรือยินยอมด้วยตัวเอง แต่ก็เป็นเพราะนายเกมส์ซึ่งเป็นผู้ใหญ่หลอกลวงให้เด็กอายุเพียง 14 ปี ที่รู้ไม่เท่าทันมาหลงชอบ ที่สำคัญนายเกมส์ยังเป็นสมาชิก อบต.ในพื้นที่ทำให้เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
โดยหลังแจ้งความได้พาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่พร้อมกับเข้าพบจิตแพทย์เพื่อประเมินสภาพจิตใจ โดยแพทย์ระบุว่าลูกสาวมีความเครียดมากและอยู่ในภาวะอาการซึมเศร้าทำให้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
หลังจากแจ้งความจนถึงวันนี้ก็พบว่าลูกสาวยังเครียดและวิตกกังวลเพราะเป็นห่วงกลัวนายเกมส์จะติดคุก ทำให้พ่อแม่และทุกคนในครอบครัวเป็นห่วงมาก แต่ก็ยังคงยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และหวั่นว่านายเกมส์จะอาศัยความใกล้ชิดกับเด็กนักเรียนหญิงไปก่อเหตุแบบนี้อีก โดยทราบข้อมูลจากพลเมืองดีว่านายเกมส์มีพฤติกรรมไปหยอกล้อเด็กผู้หญิงหลายคน เชื่อว่าอาจไม่ใช่ลูกสาวของเธอคนเดียวที่ถูกหลอกให้รักและล่วงละเมิด
ขณะที่ พ.ต.อ.เอกพงศ์ ไชยวงศ์สาย ผกก.สภ. สันป่าตอง เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งความได้สอบปากคำเด็กและผู้ปกครองเป็นการเบื้องต้นไปแล้ว พร้อมกับส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกาย หากผลตรวจออกมายืนยันตามข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับนายเกมส์ทุกข้อหาความผิดที่เกี่ยวข้อง ยืนยันจะดำเนินการโดยเร็วที่สุดตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ
ด้าน นางสาวณัฐนันทท์ พิทักษา ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เข้ามาติดตามพร้อมกับแจ้งสิทธิ์ให้กับผู้เสียหาย ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าชดเชยแก่ผู้เสียหายในคดีอาญา โดยไม่จำเป็นต้องถึงขนาดรอผลตามคำพิพากษา หากมีการสอบสวนเพียงพอในระดับหนึ่ง ก็สามารถนำเรื่องเข้าคณะกรรมการจังหวัดเพื่อพิจารณาเยียวยาได้ทันที