เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยหน่วยเฉพาะกิจ "Taskforce 35" ลุยต่อเนื่อง จับเครือข่ายขนยาเสพติดอีก 2 คดี หลังเหตุปะทะเดือดแก๊งขนยา 15 ศพ ยึดยาบ้าเพิ่มอีก 5 แสนเม็ด
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 66 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงปฏิบัติการของหน่วย Taskforce 35 ที่เร่งสกัดกั้นและทำลายเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยสามารถจับกุม 2 เครือข่ายผู้ลักลอบนำเข้ายาเสพติด ในห้วงวันที่ 19-20 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน และต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงมีนโยบายในการกำหนดพื้นที่ปฏิบัติการเร่งด่วนในชายแดนภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย โดยผนึกกำลังทุกภาคส่วน บูรณาการวางแผน อำนวยการ เพื่อสกัดกั้น ยับยั้ง และปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศตามแนวชายแดน พร้อมจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ หรือ Taskforce 35 เป็นกลไกหลักในการแก้ไขปัญหาการนำเข้ายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ
ทั้งนี้ ภายหลังวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมือง ปะทะกับกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด สามารถตรวจยึดยาบ้าได้ประมาณ 2 ล้านเม็ด และได้มีการวิสามัญกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดเสียชีวิต จำนวน 15 ศพ ในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พบว่ากลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ได้พยายามที่จะนำยาเสพติดเข้ามาทดแทนยาเสพติดที่ถูกตรวจยึด โดยลักลอบนำเข้ามาจากพื้นที่ชายแดนใน อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.แม่สาย ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีเพียงลำน้ำสายกั้นผ่านระหว่างประเทศเพื่อนบ้านกับชายแดนประเทศไทย หน่วย Taskforce 35 ประกอบด้วย ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ, ตำรวจภูธรภาค 5, ปปส.ภาค 5, ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, กองกำลังผาเมือง ได้ประสานความร่วมมือกับศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย เพิ่มความเข้มข้นในการสืบสวนหาข่าว เพื่อสกัดกั้นการนำเข้าและทำลายเครือข่ายการค้า หากมีการจับกุมในพื้นที่ และสามารถสืบสวนจนกระทั่งสามารถจับกุมเครือข่ายการนำเข้ายาเสพติดได้ 2 เครือข่าย
...
รายแรกวันที่ 19 ธ.ค. จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 200,000 เม็ด ที่ด่านศุลกากรเชียงของ จ.เชียงราย โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนทราบข้อมูลว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 จะขนยาเสพติดเข้าประเทศทางรถยนต์ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงของ และ กก.สส.ภ.5 ตั้งด่านตรวจค้น และได้ประสานเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรเชียงของ เพื่อนำรถเข้าเอกซเรย์ พบยาบ้า 200,000 เม็ด บริเวณใต้เบาะนั่งของผู้โดยสารด้านหลังคนขับ รายที่ 2 วันที่ 19 ธ.ค. จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 300,000 เม็ด หลังเจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลการข่าวว่าผู้ต้องหาจะใช้รถยนต์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ลำเลียงไปพักในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ทำการตรวจค้น พบของกลางยาบ้าดังกล่าว
"หลังจากมีการจับกุมคดีสำคัญทั้ง 2 คดี วันที่ 20 ธ.ค. 66 พล.ท.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.หน่วย Taskforce 35 ได้สั่งการให้หน่วยภายใต้สังกัด เข้าทำการตรวจค้นยึดทรัพย์สินใน 3 พื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ เพื่อเก็บข้อมูลขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องและดำเนินการทางทรัพย์สินกับผู้กระทำผิด ซึ่งจะต้องถูกยึดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ต้องขอบคุณหน่วย Taskforce 35 ที่หลังจากรัฐบาลได้มีนโยบายในการสกัดกั้นยาเสพติด จากแหล่งผลิตนอกประเทศ และได้มีการจัดตั้งหน่วยขึ้น ได้มีผลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องขอบคุณในความเสียสละและการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยประเทศให้ปลอดภัยจากยาเสพติด" พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าว